Saturday, November 12, 2016

อเมริกันจำนวนมากแห่ใช้โซเชียลมีเดียแชร์ประสบการณ์ที่เลวร้ายจากวันแรกของการชัยชนะของทรัมป์

ชาวอเมริกันจำนวนมากแห่ใช้โซเชียลมีเดียแชร์ประสบการณ์ที่เลวร้ายจากการถูกทำร้ายจนถึงการถูกข่มขู่ ด่าทอ นับจากวันแรกของการประกาศชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ


อัสระอฺ อัลตูน Esra Altun นิสิตจิตวิทยาปี 2 ของมหาวิทยาลัย San Jose State University ถูกทำร้ายโดยชายผิวขาวที่ดึงฮิญาบโดยกระชากจากด้านหลังอย่างแรก ระหว่างที่เธอเดินไปที่ลานจอดรถมหาวิทยาลัยเพื่อขับรถกลับบ้าน


"ดิฉันพยายามอ้าปากเพื่อหายใจ ตอนนั้นไม่สามารถพูดอะไรได้เลย ดิฉันเหมือนเป็นอัมพาต” อัลตูนกล่าว 



เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 2 วินาที อัลตูนสู้กลับด้วยวิธีเอนตัวไปข้างหน้า และเมื่อผู้ก่อเหตุปล่อยตัว เธอทรุดตัวล้มลงอยู่ในท่าคุกเข่า ชายคนนั้นไม่ได้พูดอะไรสักคำ อัลตูนเล่าถึงเหตุการณ์

การจู่โจมทำร้ายเกิดขึ้นหลังจากหนึ่งวันผ่านไปจากการประกาศว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ฝ่ายตำรวจของมหาวิทยาลัยบอกอัลตูนว่า เขาไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เป็นอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง แต่อัลตูนเชื่อว่าเป็นการทำร้ายเนื่องจากเธอนับถือศาสนาอิสลาม

มหาวิทยาลัย San Jose State University ส่งอีเมล์ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งถูกชายผิวขาวกระชากฮิญาบอย่างแรง ทำให้เขาหายใจไม่ออกและล้มล




ถึงคนที่พูดว่าคำพูดปราศรัยต่างๆ ระหว่างการเลือกตั้งของทรัมป์ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ต่อผู้คน - มีหญิงวัยรุ่นมุสลิมคนหนึ่งถูกทำร้าย และถูกปล้นวันนี้ (10/11/16)

***********************************
นักศึกษามหาวิทยาลัยซานดิเอโก้ ในแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่าชายสองคนพูดกันเรื่องทรัมป์ให้ได้ยิน และพูดโยงเกี่ยวกับมุสลิม ก่อนที่ลงมือปล้นเธอ อ้างจากรายงานของตำรวจ ตำรวจกล่าวว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนซึ่งเป็นชายผิวขาวคนหนึ่ง และอีกคนเหมือนคนเชื้อชาติฮิสแปนิก ได้เผชิญหน้ากับนักศึกษาหญิงผู้นี้ พร้อมขโมยกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถไปก่อนที่จะหนีไป พวกเขากลับมาขโมยรถอีกรอบหนึ่ง ขณะที่หญิงผู้เคราะห์ร้ายกำลังเที่ยววิ่งหาคนช่วยเหลืออยู่



ฉันใส่ฮิญาบ เดินผ่านชายคนหนึ่งที่อยู่ที่สถานีรถไฟวันนี้ เขาพูดว่า “เวลาของคุณหมดลงแล้ว สาวน้อย”



นี่เป็นประสบการณ์ที่ถูกเหยียดศาสนาครั้งแรกของฉัน หลังจากเราได้ประธานาธิบดีที่เหมือนกับเป็นเรื่องตลก ขณะที่ฉันอยู่ที่วอล์มารต์วันนี้ ผู้หญิงคนนี้เดินมาที่ฉันและกระชากฮิญาบฉันออก พร้อมพูดว่า “นี่มันไม่อนุญาตต่อไปอีกแล้ว เอาผ้าไปผูกคอตายซะ ไม่ใช่ใส่ไว้ที่หัว” ฉันรู้สึกหลอนไปเลย



ยังไม่ผ่าน 24 ช.ม.เลย เพื่อนน้องสาวที่เป็นมุสลิม ถูกคนที่สนับสนุนทรัมป์ชักมีดออกมาพร้อมข่มขู่ ขณะที่เธออยู่บนรถประจำทางของมหาวิทยาลัย The University of Illinois at Urbana–Champaign (UIUC) 



ตอนนี้แม่และน้องสาวของผมกำลังพูดคุยกันอยู่ว่าจะสวมฮิญาบต่อไปอีกหรือไม่ เพื่อความปลอดภ้ย



“เอาชาวโซมาเลียที่พลัดถิ่นของพวกคุณออกไปซะ และจงนำพวกเขาไปในสถานที่ที่ไม่มีดวงอาทิตย์ส่องแสง” 


 
นี่ยังไม่ผ่าน 24 ช.ม.หลังจากทรัมป์ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ เลย มีคนมาเขียนที่หน้าประตูของห้องละหมาดชมรมมุสลิมที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก คำว่า“ทรัมป์” ที่บานประตู 




เพื่อนๆ ค่ะ ผู้สนับสนุนทรัมป์คนหนึ่งพยายามกระชากฮิญาบของฉัน..... นี่ไม่ใช่เรื่องขำขันอีกต่อไปแล้ว คนที่ไม่ใช่ผิวขาวทั้งหมดตกเป็นเป้าโจมตี ขอให้ปลอดภัยนะ



เมื่อวันศุกร์ 12/11/16 นักศึกษาปีแรกที่เป็นชาวผิวสีของมหาวิทยาลัยเพนซิเวเนียทั้งหมด ได้ถูกนำชื่อเข้ากลุ่มสนทนาGroupMe ที่มีการด่าทอ ข่มขู่คนผิวสี พร้อมมีการนัดวันกันจับนักศีกษาผิวสีแขวนคอ มหาวิทยาลัยกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ เบื้องต้นสืบได้ว่ากลุ่มแช็ตกลุ่มนี้เริ่มต้นจากรัฐโอกลาโฮมา มหาวิทยาลัยเพนซิเวเนียมีคนผิวขาวที่สนับสนุนทรัมป์เป็นจำนวนมาก



วันนี้ที่ Napa ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ฉันประสบเหตุการณ์กับตัวฉันเองเลย ที่ปั้มน้ำมันขณะที่ฉันยืนเติมน้ำมันอยู่ ชายผิวขาวคนหนึ่งกระโดดออกมาจากรถกระบะ เดินตรงไปที่รถคันหนึ่งที่มีผู้หญิงชาวเอเชียตัวเล็กๆ ชายผู้นี้เริ่มตะโกนใส่เธอ ฉันเริ่มหันไปฟัง เขากล่าว “เราชนะแล้ว รีบf*@# ออกไปจากประเทศของฉันซะ” เขาพูดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นขณะที่หญิงผู้น่าสงสารคนนั้นร่ำไห้อยู่ ยืนลักษณะตัวแข็งทื่อ ฉันรีบวิ่งไปหาเธอ และเอาแขนกอดเธอเอาไว้ และให้เธอหันมาที่ฉัน สิ่งที่ฉันคิดในหัวสมองก็คือ “ฉันขอโทษมากๆ เลย” ขณะที่เราทั้งคู่ร้องไห้ด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าฉันช่างไร้ประโยชน์เสียจริง และชายคนนี้รวมด่าฉันด้วยเช่นกัน “เธอทั้งคู่นั่นแหละ f*@# ออกไปจากประเทศนี้ซะ” 



เพิ่งเจอประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉันเลย!!! ระหว่างยืนเติมน้ำมันอยู่ มีชายผิวขาว 4 คนออกมาจากรถ โดยพวกเขาเริ่มพูดกันเรื่องเลือกตั้ง และเขาแสดงความรู้สึกว่าดีใจที่ไม่ต้องวุ่นวายกับพวก “นิโกร” (เป็นคำดูถูกคนผิวสี) อีก ขณะที่ฉันยืนอยู่คนเดียว มีชายคนหนึ่งจากสี่คนเดินมาที่ฉันแล้วพูดว่า “กลัวมากแค่ไหนล่ะ นังโสเภณีผิวดำ??? ผมควรจะฆ่าคุณเลยในตอนนี้ เสียดายอากาศที่คุณหายใจจริงๆ นะ! ฉันไม่ได้ตอบโต้อะไร เอาแต่ก้มหน้า....ชายผู้นี้พูดต่อไปอีกว่า “อะไรนะ หัวหนวกหรือไงนังนิโกร???” เขาพูด “คุณน่ะโชคดีแค่ไหนที่มีคนอยู่แถวนี้เยอะ ไม่งั้นผมจะฆ่าคุณตอนนี้เลย” ในตอนนี้น้ำตาของฉันมันเริ่มไหลไม่หยุด รู้สึกโมโหและสับสน.... นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกาจากนี้เป็นต้นไปใช่มั้ย?!!!



ขณะที่ผมจอดรถเติมน้ำมันเช้านี้ ชายกลุ่มหนึ่งตะโกนออกมา “ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกจากประเทศนี้ไป อะปู!” ผมเป็นคนอินเดียที่ผิวค่อนข้างขาว และไม่ใช่คนตัวเล็ก ผมแต่งตัวแบบมืออาชีพ ผมพูดภาษาอังกฤษ นี่คือประเทศสหรัฐฯ ของเราในตอนนี้



ข้อความที่พ่นสีบนกำแพง “ทำอเมริกาให้เป็นประเทศของคนผิวขาวอีกครั้ง” พร้อมสัญลักษณ์สวัสดิกะ ที่เป็นสัญลักษณ์ของนาซี



นักศึกษาผิวขาวของมหาวิทยาลัย Southern Illinois University เพ้นท์หน้าเป็นสีดำ และมีธงที่เป็นสัญลักษณ์ของการเหยียดสีผิว อยู่เบื้องหลัง



ฉันเพิ่งเข้าใจถึงความงี่เง่าของอเมริกา ขณะที่ผมอยู่แถวดาว์นทาวน์ กลุ่มชายผิวขาวพากันมองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใส่กระโปรงที่กำลังยืนอยู่ ซึ่งเราจะเดินลงไปที่ซับเวย์ เมื่อเธอเดินผ่านชายคนผิวขาวกลุ่มนี้ ชายคนหนึ่งในกลุ่มพยายามจับต้องตัวเธอ หญิงคนนี้จึงตะโกนขึ้นมาและชายกลุ่มนี้กลับหัวเราะเยาะ กลุ่มคนและผมได้จัดการโยน 3 คนนี้ออกไปจากซับเวย์ที่ถนนวูด อเมริกาคิดว่าเรื่องลามกกลายเป็นเรื่องตลก



ว๊าว ผมกำลังรอลูกชายของผมในโรงเรียนอนุบาล และได้ยินเด็กหญิงและเด็กชายตัวเล็กๆ พูดว่าพวกเราเลือกทรัมป์ และพวกเขารุมกันแกล้งเด็กชายชาวอิสแปนิกที่เข้าแถวอยู่ โดยพูดว่า เด็กคนนี้เป็นชาวเม็กซิกัน และกำลังจะย้ายไปอยู่โรงเรียนอื่น และกำลังจะกลับประเทศเม็กซิโกไป ผมเห็นกับตาและได้ยินกับหู นี่คือโรงเรียนอนุบาลนะ 




เด็กที่สนับสนุนทรัมป์ทำกับลูกชายของฉันขนาดนี้ ฉันแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ลูกถูกเรียกว่าเป็นไอ้พวกเม็กซิกันงี่เง่า และเด็กชายคนนี้ยังบอกว่ารู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่ทรัมป์จะส่งตัวลูกฉันกลับประเทศไป ครูบอกว่าถ้าลูกฉันสู้กลับจะถูกสั่งพักการเรียน ส่วนตำรวจบอกว่ามันเป็นเรื่องภายในโรงเรียน ตำรวจไม่ขอเกี่ยวข้อง
https://twitter.com/i/moments/796417517157830656



ชาวนิวยอร์กร่วมกันมาโพสต์ข้อความให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ้งมากๆ เลย




ข่าวดี มีคนนำข้อความที่แสดงถึงความรัก ให้กำลังใจ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน มาแปะไว้ทุกๆ หน้าล็อคเกอร์ (900+) ที่เชอร์รี่คลีกไฮสกูล ในเดนเวอร์ 


ชาวอเมริกันที่มีเชื้อชาติอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนผิวขาว และหญิงมุสลิม แห่กันใช้โซเชียลมีเดียในการแชร์ประสบการณ์ที่เลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นเหตุถูกทำร้าย ถูกด่าทอ ถูกข่มขู่ นับจากวันแรกที่ได้มีการประกาศว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ


หลายคนไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวของพวกเขาเอง หญิงมุสลิมที่สวมฮิญาบหลายคนมีความหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น จากการที่มีหญิงมุสลิมที่สวมฮิญาบหลายคนถูกทำร้ายและด่าทอ ทำให้หญิงมุสลิมบางคนตัดสินใจเริ่มถอดฮิญาบออกเพราะกลัวตกเป็นเป้าการโจมตี



และนี่แค่วันแรกที่มีการประกาศชัยชนะของทรัมป์ เหตุการณ์การใช้ความรุนแรงจากการเหยียดสีผิว เชื้อชาติ (Racist attack) ยังเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ แล้วถ้าทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการล่ะ เหตุการณ์จะเลวร้ายมากไปกว่านี้ขนาดไหน


ที่มาของข้อมูล -
1. Reports of racist attacks rise after Donald Trump's win
http://www.aljazeera.com/…/reports-racist-attacks-rise-dona…
2. Day 1 in Trump’s America
https://medium.com/@s…/day-1-in-trumps-america-9e4d58381001…
Nov 10 2016, 6:39 pm ET
3. Muslim Women Wearing Hijabs Assaulted Just Hours After Trump Win
http://www.nbcnews.com/…/muslim-women-wearing-hijabs-assaul…
4. Some Muslim Women Are Afraid to Wear the Hijab After Donald Trump’s Victory
http://motto.time.com/45…/muslim-women-unsafe-donald-trump/…
5. Racism piles up on ‘Day 1 In Trump’s America’ Twitter feed
http://www.nydailynews.com/…/racist-episodes-pile-day-1-tru…

กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...