ทวิตเตอร์ ระงับบัญชีโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน เพราะละเมิดกฎการใช้งาน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวว่า ทวิตเตอร์ปิดแอคเคาท์@jitarsa_school "โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน" ซึ่งเปิดบัญชีเมื่อเดือนก.ย. มีผู้ติดตาม 48,000 ราย ทวิตเตอร์พบว่าผู้ติดตามบัญชีนี้ราว 80% เพิ่งจะถูกสร้างขึ้นมาในช่วงหลังจากต้นเดือน ก.ย.เป็นต้นมา โดยตัวอย่าง 4,600 บัญชี ชี้ชัดว่าเป็นการเปิดมาเพื่อใช้ปั่นแฮชแท๊กที่อวยสถาบันเท่านั้น เป็นเครื่องชี้ว่าไม่ใช่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ทั่วไป

“บัญชีนี้ถูกระงับเนื่องจากละเมิดกฎของเราซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นบัญชีสแปมและการบิดเบือน” ตัวแทนทวิตเตอร์กล่าว พร้อมย้ำว่าการระงับที่เกิดขึ้นเป็นไปตามนโยบายของทวิตเตอร์ และไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการตั้งคำถามจากรอยเตอร์ 

บัญชีโรงเรียนจิตอาสาพระราชทานที่ถูกทวิตเตอร์ปิดไป ระบุไว้ด้วยว่ามีหน้าที่ฝึกฝนผู้คนเพื่อเป็นจิตอาสาสำหรับโครงการพระราชทาน โดยเฟซบุ๊กเพจของ Royal Volunteers School ได้โพสต์และแชร์ข่าวสารและวิดีโอที่เกี่ยวข้องการการสนันสนุนสถาบันอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่าเป็นเจ้าของทวิตเตอร์บัญชี @jitarsa_school จริง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการออกมาชี้แจงหลังเกิดเหตุถูกสั่งระงับบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวทั้งจากทางเจ้าของเพจหรือทางสำนักพระราชวัง

โดยก่อนหน้านี้ บัญชีของกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ @FreeYOUTHth และบัญชีของฟอร์ด ทัตเทพ @fordtattepRuang ก็เคยถูกระงับการให้บริการไปก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายทวิตเตอร์ได้ปลดการระงับการให้บริการในเวลาต่อมา

ที่มา: 

https://uk.reuters.com/article/uk-thailand-protests-royalists-exclusive-idUKKBN289108

ช่างภาพสงครามชาวซีเรียที่ได้รับรางวัลถูกตร.ฝรั่งเศสทำร้ายถึงขั้นจมูกหัก ขณะที่ทำข่าวการประท้วง

นายอามิรฺ อัลฮัลบีย์ (Ameer AlHalbi) เป็นช่างภาพสงครามอิสระวัย 24 ปี ที่ทำงานให้กับนิตยสาร Polka และสำนักข่าว AFP ถูกตำรวจฝรั่งเศสใช้กระบองฟาดอย่างไร้ความปราณี จนถึงขั้นจมูกหัก และได้รับบาดเจ็บที่หน้าผาก ขณะถ่ายภาพงานประท้วงอยู่ที่ Place de la Bastille ซึ่งต่อมาเขาถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล 

“ เรารู้สึกตกใจกับการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมงานของเรา อามิรฺ อัลฮัลบีย์ และขอประณามความรุนแรงที่เขาไม่ได้เป็นฝ่ายยั่วยุ” Phil Chetwynd ผู้อำนวยการสำนักข่าว AFP

นาย Chetwynd เรียกร้องให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายอามิรฺ “เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สื่อข่าวทุกคนสามารถทำข่าวได้โดยปราศจากความกลัวหรือมีข้อจำกัดในการทำข่าว”

อามิรฺได้ไปถ่ายภาพการประท้วง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2020 ที่มีคนฝรั่งเศสราว 500,000 คนออกมาประท้วง เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสมีมติเห็นชอบให้มีการผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่ห้ามทั้งประชาชนทั่วไปและผู้สื่อข่าวเผยแพร่รูปภาพหรือคลิปวีดีโอใบหน้าตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ปีและปรับสูงถึง 45,000 ยูโร หรือราว 1.6 ล้านบาท

ประชาชนในฝรั่งเศสออกมาประท้วงกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ครั้งที่ 2 เนื่องจาก เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ Loopsider นำภาพจากกล้องวงจรปิดออกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี 26 พฤศจิกายน ขณะตำรวจ 3 นายรุมต่อย, เตะและใช้กระบองฟาดมิเชล ซิคเลอร์ โปรดิวเซอร์เพลงคนผิวสี ในสตูดิโอของเขาที่กรุงปารีส เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน ซึ่งความผิดของซิกเลอร์มีเพียงแค่เขาไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงเห็นว่า ร่างกฎหมายนี้ จะเปิดช่องโหว่ให้ตำรวจที่ชอบใช้กำลังเกินเหตุสามารถหลุดพ้นจากการดำเนินคดีไปได้ 

อามิรฺเป็นผู้ลี้ภัยจากซีเรีย ซึ่งเขาเคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัล รวมถึงรางวัลที่สองในประเภท“ Spot News” ของ World Press Photo ในปี 2017 จากการถ่ายภาพสงครามในอเลปโป บ้านเกิดของเขาในซีเรีย

“อามิรฺเดินทางมาจากซีเรียเพื่อขอลี้ภัยในฝรั่งเศส เหมือนกับนักข่าวชาวซีเรียคนอื่นๆ ดินแดนที่บอกว่าเป็นผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน ไม่ควรที่จะคุกคามพวกเขา แต่ต้องทำหน้าที่คุ้มครองพวกเขา” นาย Christophe Deloire เลขาธิการใหญ่ขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์

ที่มา: 

https://www.aljazeera.com/news/2020/11/29/award-winning-syrian-photojournalist-injured-during-paris-protest

https://www.theguardian.com/world/2020/nov/29/syria-war-photographer-wounded-by-police-during-paris-protest

ตำรวจฝรั่งเศสดำเนินคดีกับเด็กประถมชาวมุสลิม 4 คนวัย 10 ขวบในข้อหา “เชิดชูการก่อการร้าย”

ตำรวจฝรั่งเศสดำเนินคดีกับเด็กประถมชาวมุสลิม 4 คนวัย 10 ขวบในข้อหา “เชิดชูการก่อการร้าย” หลังจับตัวไปสอบปากคำถึง 11 ชม. เพียงเพราะเด็กตอบครูไปว่าไม่ชอบที่ครูเอาการ์ตูนล้อเลียนท่านมูฮัมหมัด ﷺ มาโชว์ในห้องเรียน 

ครูถามเด็กนักเรียนประถมวัย 10 ขวบที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในชั้นเรียนว่าเด็กๆ รู้สึกเสียใจหรือไม่กับการที่เด็กวัยรุ่นสังหารโหดครูชาวฝรั่งเศสที่เอาการ์ตูนล้อเลียนท่านศาสดามูฮัมหมัด ﷺ มาใชว์ในห้องเรียน

เด็ก 3 ใน 4 คนที่มีเชื้อสายเตริก์ และอีก 1 คนมีเชื้อสายอาหรับ ต่างตอบครูไปว่าพวกเขาต่างประณามการฆาตกรรมครูผู้นั้น แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่ครูเอารูปการ์ตูนที่ล้อเลียนท่านศาสดามูฮัมหมัด ﷺ มาสอนในชั้นเรียน 

วันต่อมา ตำรวจใน Albertville ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส บุกบ้านเกือบพังประตูเข้าไปในตอน 7 โมงเช้าของวันพฤหัสที่ 5 พฤศจิกายน  โดยตำรวจเรียกสมาชิกในครอบครัวทุกคนมานั่งรวมกันที่ห้องรับแขกในสภาพชุดนอน ตำรวจเข้าไปค้นห้องลูกสาวที่เป็นนักเรียนประถม ซึ่งใช้ความพยายามอย่างมากในการหาหลักฐานว่า เด็กมีความคิดไปในแนวทางหัวรุนแรง แต่กลับไม่พบหลักฐานใดๆ 

จากนั้นตำรวจถ่ายรูปกรอบรูปที่แขวนในห้องรับแขกที่เป็นชื่อของท่านศาสดามูฮัมหมัด ﷺ แล้วสั่งให้ผู้ปกครองนำตัวเด็กไปสถานีตำรวจตอน 9 โมงของวันเดียวกัน

พ่อของเด็กนักเรียนที่มีชื่อย่อว่า EY ชาวตุรกีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TRT ว่า“ตำรวจสอบสวนผมและภรรยาของผม เป็นเวลา 2 ชม. ‘คุณละหมาดมั้ย? ถ้าละหมาด คุณนำลูกไปมัสยิดกับคุณด้วยมั้ย? คุณมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในมัสยิดหรือไม่? คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการ์ตูนล้อเลียนท่านมูฮัมหมัด?’ ผมตอบตำรวจไปว่า ศาสดาของเราเป็นที่รักยิ่งของพวกเราที่เป็นมุสลิมทุกคน และการที่ทำการ์ตูนล้อเลียนท่านศาสดามูฮัมหมัด เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และผมก็บอกกับตำรวจว่า แต่เราก็ไม่เห็นด้วยถึงการที่มีคนไปฆ่าครูเช่นกัน” 

พ่อของ EY บอกว่าภรรยาของเขา และคนในครอบครัวทุกคนถูกตำรวจถามคำถามเดียวกันหมด ขณะที่พวกเขาถูกตำรวจสอบสวน “ตำรวจปฏิบัติต่อเราเหมือนเราเป็นผู้ก่อการร้าย เราถูกตำรวจถ่ายรูปทำประวัติอาชญากรรม ถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ เราอาศัยอยู่ที่ฝรั่งเศสมา 20 ปี โดยไม่เคยมีประวัติอาชญกรรมมาก่อน ลูกของเราทั้ง 4 คนก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับโรงเรียนหรือกับตำรวจมาก่อน ผมถูกตำรวจถามถึงความคิดเห็นแม้กระทั่งเรื่องอัรดูฆอนกับมาครงที่มีเรื่องโต้แย้งกันอยู่ ผมก็ขอร้องตำรวจไปว่าขออย่านำผมไปเกี่ยวกับการเมือง” 

ตำรวจตั้งข้อหาลูกสาวผม EY “เชิดชูการก่อการร้าย” ก่อนที่จะนำตัวเด็กไปสอบสวนโดยไม่มีผู้ปกครองหรือทนายไปด้วยถึง 11 ชม. และถูกตำรวจปล่อยตัวตอนประมาณ 17.30 น. ของวันพฤหัส  “ลูกสาวผมร้องไห้หนักมากขณะที่ถูกนำตัวไปสอบสวนในตอนเช้า ซึ่งจากนั้นเด็กถูกนำตัวไปอีกสถานีตำรวจหนึ่งเพื่อไปสอบสวนและเด็กถูกถ่ายวีดีโอขณะมีการสอบสวน ลูกผมถูกกักตัวไว้ที่นั่นเกือบ 11 ชั่วโมง จนมีคำตัดสินของศาลให้ปล่อยตัว เด็กยังถูกบังคับให้มีการลงนามคำให้การ และตำรวจยังปฏิเสธที่จะให้สำเนาของคำให้การของเด็กกับผมอีก” 

ครอบครัวของเด็กทั้ง 4 คนรู้สึกว่า พวกเขาถูกตำรวจและโรงเรียนขึ้นบัญชีดำ “เราบอกลูกชายวัย 22 ปีให้ตอนนี้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษตอนที่ออกไปนอกบ้าน  เราจะนำตัว EY ไปพบจิตแพทย์  เนื่องจากลูกยังมีอาการความบอบช้ำทางจิตใจอยู่ เรากำลังตัดสินใจที่จะย้ายลูกไปเรียนที่โรงเรียนอื่น”

ตอนนี้เด็กทุกคนไม่ต้องการกลับไปเรียน เพราะกลัวถูกเพื่อนล้อว่า พวกเขาเป็นพวกก่อการร้าย ส่วนเด็กชายอีกคนถึงขนาดฉี่รดที่นอนเพราะความหวาดกลัว หลังจากถูกตำรวจจับไปสอบสวนถึง 11 ชม. 

ที่มา: 

https://www.trtworld.com/magazine/french-police-interrogate-muslim-children-for-disliking-insulting-cartoons-41233

ภาพ:  Morocco World News 

📌 ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้: 

1. เหตุก่อการร้ายฆ่าตัดคอที่โบสถ์ในเมืองนีช เป็นการจัดฉากโดยรัฐบาลมาครง(1/2)

https://www.facebook.com/1072860619570646/posts/1450114088511962/

 

2.  (2/2)

https://www.facebook.com/1437750509852666/posts/2427195150908192/?d=n

เกิดเหตุลอบวางเพลิงมัสยิดในฝรั่งเศส

มีชายนิรนามย่องเข้ามายังมัสยิดแห่งหนึ่งตอนกลางคืนของวันเสาร์ (31 ต.ค.) ในชาร์ตูร์ดัน Chateaudun ฝรั่งเศส อีหม่ามของมัสยิดกล่าว

นายฟาเตี๊ยะฮ์ ซากิร์ Fatih Saikir ขององค์กร The General Secretary of Islamic Confederation National Opinion (CIMG) เล่าว่า มีคนราดน้ำมันเบนซินที่หน้ามัสยิดและจุดไฟเผา แต่ก็สามารถดับไฟได้ โดยไม่ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ลามไปยังอาคารของมัสยิด มีอาคารได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ทางมัสยิดเองก็ได้โทรแจ้งตำรวจ และตำรวจก็เดินทางมาที่มัสยิด และดำเนินการสอบสวน ตำรวจได้ออกแถลงการณ์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการพยายามลอบวางเพลิง และจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในการสอบสวนสืบสวน

ที่มา: 

https://www.aa.com.tr/en/world/arson-attack-targets-mosque-in-france/2026637

📣📌 ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้:

เหตุก่อการร้ายฆ่าตัดคอที่โบสถ์ในเมืองนีช เป็นการจัดฉากโดยรัฐบาลมาครง (1/2)

https://www.facebook.com/1072860619570646/posts/1450114088511962/

(2/2)

https://www.facebook.com/1437750509852666/posts/2427195150908192/?d=n

รัฐบาลออสเตรียจัดฉาก ใส่ร้ายมุสลิมว่าเป็นผู้ก่อการร้าย

ออสเตรีย - เวียนนา

ให้คลิปมันเล่าเรื่อง - เหตุการณ์ในเวียนนา  ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2020 ตอน 2 ทุ่ม

ช่อง 20 ของสถานีโทรทัศน์ของอิสราเอลกล่าวว่า เขาเป็นเพียงสื่อเดียวที่ได้คลิปนี้มา (คลิปที่มีภาษาฮิบบรู) และสื่อทั่วโลกก็เอาไปประโคมต่อ

คลิปนี้ถูกบล็อกในทันทีที่ดิชั้นอัพโหลดลงในเฟสบุ๊คและทวิตเตอร์ค่ะ 

กดแชร์ได้นะคะ

 

ผู้ชนะตลอดกาลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

 

ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คนต่อไป  ผู้ที่ชนะถาวรก็คือ ประเทศอิสราเอล เพราะแต่ละปีสหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนอิสราเอลทางด้านการทหารถึง 38 ล้านล้านดอลลาร์

ปี 2016 ประธานาธิบดีโอบามาได้มีการเซ็น MOU กับอิสราเอลมีระยะเวลานานถึง 10 ปี (2019 - 2028) แทนงบเก่าที่ให้ 30 ล้านล้านดอลลาร์  

นับเป็นความช่วยเหลือด้านการทหารที่มากที่สุดของสหรัฐฯต่ออิสราเอล 

อเมริกาไม่ได้อะไรเลยสักนิด จากการให้เงินสนับสนุนทางทหารจำนวนมหาศาลถึง 38 ล้านล้าน แต่มันเหมือนเป็นส่วยที่ต้องจ่ายให้กับอิสราเอลในแต่ละปี ขณะที่คนในประเทศสหรัฐฯ เองก็ประสบปัญหากับความยากจนที่มีเพิ่มมากขึ้น

ผู้ที่สมัครประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แต่ละครั้ง  จำเป็นต้องไปปราศรัยที่ AIPAC กลุ่มล็อบบี้ยิวยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ว่าจะมีนโยบายให้อะไรกับรัฐอิสราเอลบ้าง ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ  คนต่อไป 

ลิงก์ข่าวทรัมป์ไปปราศรัยที่ AIPAC:

https://mgronline.com/around/detail/9590000029689

#เลือกตั้งสหรัฐฯ2020