Sunday, December 4, 2016

ออง ซาน ซูจีปฏิเสธถึงเรื่องชาวโรฮิงญาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่าถูกแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมด



ในวันที่ 1 ธ.ค. 2016 ออง ซาน ซูจี เดินทางไปประเทศสิงคโปร์เพื่อชักชวนให้นักลงทุนชาวสิงคโปร์ไปลงทุนในพม่า  


ทั้งนี้ นางได้มีโอกาสพบปะประชาชนชาวพม่าที่ทำงาน และอาศัยอยู่ในสิงคโปร์อีกด้วย  โดยมีชาวพม่าถามความคิดเห็นของนางถึงเรื่องชาวโรฮิงญาว่าชาวโรฮิงญาแต่งเรื่องการที่พวกเขากำลังถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อยู่ในขณะนี้ว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา  ซึ่งนางซูจีเองก็เห็นด้วยด้วยกล่าวว่า ชาวโรฮิงญาแต่งเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด พร้อมมีการชักชวนให้ชาวพม่าออกมาตอบโต้ชาวโลกถึงเรื่องเหตุการณ์ที่ชาวโรฮิงญาถูกทหารพม่าฆ่า จับกุมและมีการทรมาน ข่มขื่นสตรีและเด็กสาว  เผาบ้านเรือนวอดหลายพันหลัง  และขโมยของมีค่าชาวโรฮิงญาว่า ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด


รัฐบาลพม่าใช้สื่อของรัฐ และสื่อต่างๆ ในพม่าในการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ถึงกรณีเรื่องชาวโรฮิงญา เช่นพวกโรฮิงญาเผาบ้านตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจต่อชาวโลก  จับชาวโรฮิงญาผู้บริสุทธิ์แล้วบังคับให้ยืนถ่ายรูปพร้อมถือปืน พร้อมมีด บ้างก็จับชาวโรฮิงญาทั้งครอบครัวรวมทั้งเด็กเล็ก แล้วลงข่าวว่าจับผู้ก่อการร้ายชาวโรฮิงญาได้  และมีการประโคมข่าวในพม่าว่า เรื่องการข่มขื่นชาวโรฮิงญาโดยทหารพม่าไม่เป็นความจริงแต่ประการใด  


รัฐบาลพม่ามีความพยายามปิดข่าวของทุกๆ การกระทำที่โหดเหี้ยมของทหารและตำรวจชายแดนพม่าต่อชาวโรฮิงญา ด้วยการห้ามนักข่าวต่างประเทศเข้าไปทำข่าวในพื้นที่ที่เกิดเหตุ  แม้กระทั่งนักข่าวต่างประเทศชื่อ Fiona MacGregor ของสำนักข่าวเมียนมาร์ ไทมส์เอง ก็ถูกไล่ออกจากงานเมื่อเขียนข่าวถึงการที่ชาวโรฮิงญาถูกข่มขื่นในหม่องดอว์  หลังจากรัฐมนตรีประจำกระทรวงข่าวสาร  U Pe Myint ยกหัวถึงเมียนมาร์ ไทมส์ต่อว่าที่ปล่อยให้ MacGregor เขียนข่าวเรื่องชาวโรฮิงญาถูกทหาพม่ารุมข่มขื่น


ที่มา –
Reporter’s sacking followed MoI phone call, sparking press freedom fears
http://frontiermyanmar.net/en/news/reporters-sacking-followed-moi-phone-call-sparking-press-freedom-fears

กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...