วันนี้เป็นวันครบรอบ 12 ปีของการหายตัวไป
ของทนายสมชาย นีละไพจิตร
*****คัดลอกมาจากเฟสบุ๊กส์คุณอังคณา นีละไพจิตร*****
-------------
#ดิฉันขอชื่นชมรัฐบาลไทย ที่ได้ลงนามอนุสัญญาการบังคับสูญหาย
ของสหประชาชาติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 รวมถึงการดำเนินการ
เพื่อให้มีกฎหมายเพื่อยุติการทรมาน และการบังคับสูญหายใน
ประเทศไทย และขอขอบคุณที่รัฐบาลให้การเยียวยาครอบครัว
สมชาย นีละไพจิตร และครอบครัวผู้สูญหายใน จชต.
ความเคารพต่อสถาบันตุลาการ การแสดงความเห็นของดิฉันเป็นการ
แสดงความเห็นในฐานะครอบครัวเหยื่อ ในฐานะของผู้หญิงคนหนึ่งที่
เฝ้าสังเกตการณ์คดีสมชาย ตั้งแต่วันแรกที่สมชายถูกทำให้สูญหาย
จนถึงวันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา และถึงวันนี้ วันครบรอบ 12 ปีที่
สมชาย นีละไพจิตรยังคงเป็นผู้สูญหาย โดยปราศจากความรับผิด
ชอบจากรัฐ
#การแสดงความคิดเห็นของดิฉันไม่มีเจตนาใดที่จะดูหมิ่น
กระบวนการยุติธรรมดิฉันไม่มีเจตนาใดที่จะก้าวล่วงต่อความเป็นอิสระ
ของอำนาจตุลาการ แต่ดิฉันมีเจตนาแน่วแน่ ในการก่อให้เกิดการ
เรียนรู้ของผู้คนในสังคม ของนักเรียนกฎหมาย ครูสอนกฎหมาย และ
บุคลากรต่างๆในกระบวนการยุติธรรม ในอันที่ทบทวนปัญหาข้อ
บกพร่องของข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริงที่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึง
ความยุติธรรมของเหยื่อ ความล้มเหลวในการหาตัวผู้สูญหาย และ
การนำคนผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม ดิฉันเชื่อด้วยหัวใจ
บริสุทธิ์ว่าการวิเคราะห์นี้จะเป็นคุณูปการสำคัญในการพัฒนา
กฎหมาย และเพื่อสร้างความเป็นนิติรัฐให้เกิดขึ้นจริงแม้หลายท่านจะ
ชื่นชมว่าดิฉันเข้มแข็ง และกล้าหาญ แต่ดิฉันรับรู้ได้ดีถึงความทุกข์
ทรมานจากการสูญเสีย การมีชีวิตอยู่กับความคลุมเครือ และการถูก
ปีของการสู้คดีอย่างเปิดเผยในศาล ดิฉันเชื่อว่าคดีสมชายได้สร้าง
คุณูปการที่ยิ่งใหญ่แก่สังคมไทย แก่กระบวนการยุติธรรมไทย อย่างที่
ดิฉันเน้นย้ำว่าสิ่งที่ดิฉันพูดมาทั้งหมดไม่มีเจตนาในการกล่าวหาใคร
หรือหน่วยงานใด หากแต่ดิฉันเชื่อว่าการพุดความจริง การยอมรับ
ความจริง ซึ่งแม้จะเป็นความล้มเหลว เป็นความบกพร่อง แต่มันจะ
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิด
ความพยายามในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และยุติวัฒนธรรมการงด
เว้นโทษในสังคมไทยต่อไป
วันนี้ 12 ปีของการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม ในฐานะเหยื่อและพยาน
ของการบังคับสูญหายในประเทศไทย ดิฉันยืนยันได้ว่า กรณีการ
บังคับสูญหาย “#กระบวนการยุติธรรม #ไม่เป็นธรรม”
วีดีโอ - TNN 24