Thursday, March 31, 2016

เด็กหญิงมุสลิม 3 คนถูกแกงค์เด็กวัยรุ่นชาวออสซี่ 10 คนรุมทำร้ายร่างกาย

30 มีนาคม 2016


ออสเตรเลีย – ตำรวจกล่าวว่า เด็กหญิงทั้งสามอายุ 15, 12 และ 10 ขวบ ได้วิ่งเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะของเขตนอร์แลนด์ จีลอง รัฐวิกตอเรีย ประมาณเวลา 17.30 น. ในวันที่ 23 มีนาคม 2016 เมื่อเด็กได้ถูกเด็กวัยรุ่นออสซี่ 10 คนรุมทำร้ายร่างกาย ทั้งชกและแตะไปที่เด็ก

ดาบตำรวจ โจนาธาน พาริช Jonathan Parish กล่าวว่า มันเป็นการทำร้ายร่างกายที่ผมรู้สึกแย่มากๆ “เด็กหลายนี้ยังอายุน้อยอยู่ พวกเขาสมควรที่จะได้รับความสนุกสนานจากการไปวิ่งเล่นในสวนสาธารณะของท้องถิ่นได้  โดยไม่ต้องเจอกริยาที่แย่ที่สุดของเด็กวัยรุ่นเหล่านั้น”

แกงค์วัยรุ่นกลุ่มนี้ยังได้กระชากผ้าฮิญาบออกจากศีรษะเด็กมุสลิมทั้ง 2 คน แล้วใช้คำดูถูกเหยียดหยามศาสนาว่า ฮิญาบนั้นเป็นอุจจาระ สั่งเด็กทั้งสองให้ถอดอุจจาระนี้ออกไปเสีย

พอเด็กทั้ง 3 คน จะวิ่งหนี และตั้งใจโทรหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ กลับถูกแกงค์เด็กกลุ่มนี้แย่งมือถือไปจากมือเด็ก และทุบออกเป็นเสี่ยง

บรรดามารดาของเด็กออสซี่เหล่านี้มาถึงที่เกิดเหตุ แทนที่จะห้ามลูกๆ ของพวกน้อง  แต่กลับยุยงให้ลูกๆ ทำร้ายร่างกายเด็กต่อไปอีก

คุรานดา ซายิด Kuranda Seyit เลขาธิการของสภาอิสลามแห่งรัฐวิคตอเรีย ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายนี้ว่า  “ผมกังวลใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ประเภทนี้ว่ายังคงเกิดขึ้นอีกต่อไป  และผมก็คิดว่าชาวออสซี่ส่วนใหญ่ และประชาชนในรัฐวิคตอเรีย รู้สึกหวาดผวาเท่าๆ กับพวกเรา”

“เด็กวัยรุ่นเหล่านี้เข้าใจผิดและมีการรับรู้ที่ผิดๆ เกี่ยวกับคนมุสลิม และมีความคิดผิดๆ จึงทำให้พุ่งเป้าหมายอย่างไม่เป็นธรรมในการทำร้ายเด็กหญิงเหล่านี้”  นายซายิต กล่าว


ที่มา -
Girls vilified by gang of youths in Norlane racist attack


วีดีโอ – Channel 7 Melbourne

Saturday, March 26, 2016

18 + แพทย์ทหารอิสราเอลยิงซ้ำที่ศีรษะชาวปาเลสไตน์ที่นอนบาดเจ็บใกล้ตาย


25/03/16


เฮบรอน เขตยึดครองเขตเวสต์แบงค์ - B'Tselem กลุ่มสิทธิมนุษชน


ของอิราเอลได้นำคลิปวีดีโอน่าสลดโพสต์ออกมาเผยแผ่ และอธิบาย

ในวีดีโอว่าคลิปนี้ถ่ายโดยนายอีหมัด อบู-ชัมซียะฮฺ Emad abu-

Shamsiyah อาศัยอยู่ในเฮบรอน และวีดีโอนี้ได้แชร์อย่างแพร่หลาย

ในโลกสังคมออนไลน์ ทหารอิสราเอลได้ถูกประณามอย่างหนักโดยผู้

ใช้สังคมออนไลน์ทั่วโลกถึงความป่าเถื่อน เหี้ยมโหด ไร้มนุษยธรรม




ในคลิปวีดีโอเผยให้เห็นชายหนุ่มปาเลสไตน์ 2 คนนอนราบอยู่กับพื้น


บาดเจ็บสาหัสจากการถูกทหารอิสราเอลยิงใส่ ซึ่งทั้งสองถูกกล่าวหา

ว่าพยายามแทงทหารอิสราเอล



ในคลิปเห็นรถพยาบาลของอิสราเอล 3 คันจอดอยู่ที่เกิดเหตุ และ

ทำการรักษาทหารอิสราเอลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่กลุ่มแพทย์

อิสราเอลและทหารอิสราเอลนั้นกลับปล่อยให้หนุ่มชาวปาเลสไตน์ 2 

คน นอนอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสอย่างนั้น โดยไม่ได้ให้ความสนใจ

แต่อย่างใด



ในคลิปนาทีที่ 1.49 แพทย์ทหารที่มาพร้อมรถพยาบาลได้ชักปืนขึ้น

มา แล้วเดินเข้าไปใกล้ร่างของ 1 ใน 2 ของชายปาเลสไตน์ที่นอน

หายใจรวยรินอยู่แล้ว ด้วยการจ่อยิงไปที่ศีรษะของเขา ทั้งๆ ที่ชาย

ปาเลสไตน์ผู้นี้ไม่ได้ปรากฏพฤกติกรรมที่เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตของ

ทหารอิสราเอลแต่ประการใด



หลังจากได้ยินเสียงปืนดังลั่น 1 นัดเราจะเห็นเลือดเริ่มไหลออกจาก


ศีรษะของชาวปาเลสไตน์ผู้นี้ แต่ปรากฏว่าไม่มีทหารอิสราเอลหรือ

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่คนใดทำท่าตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ

ศพชาวปาเลสไตน์ทั้งสองคนนี้ถูกนำไปยังสถานที่ที่ไม่ถูกเปิดเผย



อ้างจากสำนักข่าวมาอั๊นในเบธเลเฮม ได้เปิดเผยชื่อชายชาวปาเลส   

ตน์ที่ถูกแพทย์ทหารยิงใส่ศีรษะเสียชีวิตในทันทีคือ นายอาเบ็ด อัล-

ฟัตตะฮฺ ยุศรีย์ อัล-ชารีฟ Abed al-Fattah Yusri al-Sharif วัย 21 ปี 

ส่วนชายปาเลสไตน์อีกคนหนึ่งที่นอนบาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตเช่น

กันคือ นายแรมซี่ อาซิส อัล-คัสราวีย์ Ramzi Aziz al-Qasrawi วัย 

21 ปี



นายทหารผู้นี้ ได้ถูกระบุต่อมาว่าเป็นแพทย์ทหาร และเราสามารถเห็น


ในตอนต้นของคลิปวีดีโอว่า นายแพทย์ผู้นี้ช่วยยกทหารที่บาดเจ็บขึ้น

รถพยาบาล



หลังจากมีการแชร์คลิปกันแพร่สะพัด นายแพทย์ทหารผู้นี้ได้ถูกคว


คุมตัวและถูกสอบสวน โดยยอมรับสารภาพว่าเขายิงจริง แต่กลับอ้าง

ว่าสาเหตุที่ยิงเพราะเกรงว่าผู้ตายอาจจุดฉนวนระเบิดก่อนที่จะเสีย

ชีวิต ส่วนทางสื่ออิสราเอลไม่ได้เปิดเผยชื่อแพทย์ทหารผู้นี้ แต่ผู้

สนับสนุนเขาในเฟสบุ๊กส์ เข้ามาเสนอความคิดเห็นในเฟสบุ๊กส์ส่วนตัว

ของเขา และขนานนามแพทย์ทหารนายนี้ว่าเป็น “ฮีโร่” 



นายอีซา อัมรุอฺ Issa Amro ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเฮบรอน และเป็น


ผู้นำของกลุ่มสิทธิมนุษยชนชื่อ Youth Against Settlements กล่าว

กับสำนักข่าว MEE ว่าเหตุการณ์นี้เป็น “อาชญกรรมสงครามและเป็นวิ

สามัญฆาตกรรม”


“ผมไม่แปลกใจเลยที่เห็นคลิปวีดีโอชิ้นนี้..... มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิด

ขึ้น แต่เป็นครั้งแรกที่ได้ถูกถ่ายคลิปเอาไว้อย่างชัดเจน เราทราบดีว่า

เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก” นายอัมรุอฺ กล่าว



ส่วนทางด้านยูเอ็น ผู้ประสานงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ UN 


Coordinator ออกมาประณามถึงเหตุการณ์นี้ หลังจากคลิปวีดีโอนี้ได้

แชร์อย่างกว้างขวาง



“ผมขอประณามอย่างรุนแรงกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (24/03/16) ว่า


เป็นการสังหารแบบสามัญฆาตกรรมชาวปาเลสไตน์ในเฮบรอน ซึ่ง

เป็นเขตที่อิสราเอลยึดครองในเวสแบงก์” นาย Nickolay Mladenov 

ผู้ประสานงานพิเศษแห่งสหประชาชาติเพื่อสันติภาพในตะวันออก

กลาง กล่าว 



“นี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าสยดสยอง ผิดศีลธรรมและไร้ความยุติธรรม ซึ่ง


จะเป็นเชื้อเพลิงในการนำมาซึ่งการใช้ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และจะ

ทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่แล้วมีความบานปลายไปมากกว่านี้” 

นาย Nickolay Mladenov กล่าว 



ตอนนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วจำนวน 206 รายและชาว


อิสราเอล 29ราย จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือน

ตุลาคมองปีที่แล้ว 



ที่มา –
1. Israeli Rights Group Releases Video of Army Medic Executing Wounded Palestinian Suspect
https://theintercept.com/2016/03/24/israeli-rights-group-releases-video-soldier-executing-wounded-palestinian-suspect/
2. VIDEO: Israeli soldier 'executes' injured Palestinian after stab attack
http://www.middleeasteye.net/news/video-shows-assassination-palestinian-man-israeli-human-rights-group-427067084
3. UN condemns 'gruesome' killing of wounded Palestinian
http://www.aljazeera.com/news/2016/03/condemns-gruesome-killing-wounded-palestinian-160325162939038.html

#ปาเลสไตน์ #อิสราเอล #ทหารอิสราเอล #บอยคอตอิสราเอล

Tuesday, March 22, 2016

เหตุระเบิดสนามบินและสถานีรถไฟใต้ดินในเบลเยียม

22/03/2016

  
คลิปวีดีโอสองเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินนานาชาติซาเวนเทม (Zaventem) และสถานีรถไฟใต้ดินมาลเบค (Maelbeek) ในกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เมื่อตอนเช้าของวันที่ 22/03/2016 โดยเกิดระเบิด 2 ลูกซ้อนภายในสนามบินนานาชาติซาเวนเทม เวลาประมาณ 8 โมงเช้า (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นบริเวณเคาวน์เตอร์ 8 และ 9 ใกล้บริเวณจ่ายเงินค่าธรรมเนียมน้ำหนักเกิน

ส่วนระเบิดลูกที่ 2 เป็นระเบิดที่เกิดขึ้นที่ชั้น 3 อาคารผู้โดยสารขาออก ใกล้ร้านกาแฟสตาร์บัคส์

หลังจากชั่วโมงหนึ่งผ่านไป มีเหตุระเบิดอีกลูกที่รถไฟใต้ดินมาลเบค ซึ่งใกล้กับสำนักงานใหญ่ของอียู  จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คนและบาดเจ็บประมาณ 230 คน

ส่วนเบลเยียมเพิ่มระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุด โดยมีการระงับการเดินทางโดยรถไฟ รถราง และรถเมล์ทั้งหมดในเมืองหลวง  โดยนายกรัฐมนตรีเบลเยียม ชาร์ล มิเชล ได้มีการเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ขณะที่ประเทศต่างๆ ในยุโรปประเทศต่างๆ ในยุโรปมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

เหตุระเบิดในครั้งนี้เกิดขึ้น 4 วันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ในเบลเยียมได้จับกุม นายซอและห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส

ทางด้านกลุ่มไอเอสเอง ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสำนักข่าว Amaq ซึ่งเป็นสำนักข่าวของกลุ่ม โดยกล่าวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในกรุงบรัสเซลส์

ส่วนมุสลิมชายหลายคนที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ในยุโรปต่าง ส่วนออกมาใช้โซเชียลมีเดียเพื่อตักเตือนให้สตรีมุสลิม ที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางออกนอกบ้านเพื่อไปเรียน ทำงานหรือทำธุระ ให้ระมัดระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากพวกเกลียดกลัวมุสลิมจะเลือกเป้าโจมตีทำร้ายร่างกายสตรีมุสลิมซะเป็นส่วนมาก 



ที่มา -
4. ที่มาของคลิปวีดีโอ –
สำนักข่าว AP

Sunday, March 20, 2016

พระในเมียนมาร์รักโดนัล ทรัมป์ ผู้ที่ปลุกกระแสเกลียดชังมุสลิมในสหรัฐฯ


13 มีนาคม 2016

ย่างกุ้ง – นายโดนัล ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากธุรกิจด้านอสิงหาริมทรัพย์

ผู้สมัครเพื่อเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ถูกเรียกว่าเป็นพวกคลั่ง

ชาติพันธุ์นิยม และเกลียดชนชาติอื่นๆ ที่แตกต่างจากชาติพันธุ์

ตนเอง Xenophobic Fascist นายทรัมป์ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น

เหมือนกับอดีตผู้นำเผด็จการของเยอรมนี “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” แต่อีก

มุมหนึ่งของโลกนายทรัมป์ กลับกลายเป็นบุคคลที่ได้รับการชื่นชอบ

จากบรรดาพระสุดโต่งและกลุ่มต่อต้านมุสลิมในเมียนมาร์



“ตราบใดที่คัมภีร์อัลกรุอานยังคงมีอยู่ ก็จะมีพวกก่อการร้ายอยู่อีกต่อ

ไป และก็เหมือนกับนายทรัมป์ เรากำลังพยายามที่จะปกป้องประเทศ

และศาสนาของเรา จากภัยอันตรายของศาสนาอิสลาม” พระสงฆ์ U 

Parmaukkha พระหัวรุนแรงและเป็นสมาชิกอาวุโสของกลุ่ม “มะบ๊ะ

ต๊ะ”(Ma Ba Tha) กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่วัด Magwe 

Pariyatti ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของกรุงย่างกุ้ง



วาทกรรมต่อต้านชาวมุสลิมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีการเสนอเรียก

ร้องห้ามชาวมุสลิมเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ เป็นการสะท้อนถึง

นโยบายของกลุ่มพระสงฆ์ชาตินิยมหัวรุนแรง ที่คอยปลุกปั่นคนใน

ชาติว่าชาวมุสลิมนั้นเป็นภัยคุกคามการดำรงอยู่ของชนชาวพุทธที่เป็น

คนส่วนใหญ่ของประเทศเมียนมาร์ ทั้งพระสงฆ์หัวรุนแรงและทรัมป์ได้

ฝังตัวเองอยู่กับความโกรธเกลียดและความเกลียดชังชาวมุสลิม โดย

นำความคิดว่าเป็นการปกป้องประเทศของตนจากภัยคุกคามของกลุ่ม

มุสลิมหัวรุนแรงมาเป็นข้ออ้าง



นายทรัมป์จึงเป็นที่รักใคร่ต่อพวกสุดโต่งชาวเมียนมาร์ เช่นนาย Win 

Ko Ko Latt ประธานกลุ่มยุวชน Myanmar National Network ซึ่ง

เชื่อมโยงกับกลุ่มมะบ๊ะต๊ะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จัดประท้วงและผลักดันกฏ

หมายต่างๆ ที่เป็นการต่อต้านมุสลิมในเมียนมาร์



“ผมชอบโดนัล ทรัมป์ เพราะเขาเข้าใจภัยอันตรายของพวกมุสลิม” 

นาย Latt กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ระหว่างการเยี่ยมเยือนวัด 

Magwe เมื่อเร็วๆ นี้ “มันแสดงให้เห็นว่า การที่เราต่อสู้ต่อต้านอิสลาม

นั้น มันจัดเป็นวาระระดับโลกเลยทีเดียว และศาสนาอิสลามนั้นเป็นภัย

คุกคามไม่ใช่แค่ในเมียนมาร์เท่านั้น แต่เป็นภัยที่ครอบคลุมไปทั่วโลก



ชาวมุสลิมและศาสนาอิสลามถูกนำมาเป็นประเด็นใหญ่โตในการ

แข่งขันเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีของปี 2016 ในสหรัฐฯ หลังจาก

เหตุการณ์โจมตีที่ปารีสและซานเบอร์นาดิโน โรคเกลียดกลัวอิสลาม 

Islamophobia ได้ถูกนำเข้าไปประเด็นแอบแฝงในการเมืองของเมีย

นมาร์ด้วยเช่นกัน ที่มีความพยายามเปลี่ยนผันจากระบบการปกครอง

ของทหารให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น



มุสลิมในเมียนมาร์ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรง และไม่มีการรับรอง

สัญชาติ กลุ่ม "มะบ๊ะต๊ะ" (Ma Ba Tha) หรือ "องค์กรปกป้องเชื้อชาติ

และศาสนา" และกลุ่มเคลื่อนไหว 969 ที่นำโดยพระวีระธู ได้ร่วมกัน

ปลุกปั่นให้ชาว





พุทธในเมียนมารร์ลุกขึ้นมาต่อต้านมุสลิม เช่นการนำข่าวเท็จว่าคน

มุสลิมข่มขื่นชาวมุสลิมมาเป็นประเด็นปลุกปั่น พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงใน

เมียนมาร์ได้มีส่วนร่วมกับกลุ่มคลั่งชาติเหล่านี้ โดยมีการโจมตี สังหาร

หมู่ชาวโรฮิงยาในปี 2012 ทำให้ชาวโรฮิงยานับหมื่นคนถูกสังหารหมู่ 

ถูกเผ่าบ้านเรือน และถูกจำกัดเสรีภาพในการเคลื่อนย้าย สิทธิการได้

รับการศึกษา และการรักษาพยาบาล ชาวโรฮิงยานับแสนคนต้อง

กลายเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศตนเอง และต้องเข้าไปอยู่ในค่ายลี้ภัยที่มี

สภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย


กลุ่มชาวพุทธชาตินิยมในเมียนมาร์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มพระผู้มีอิทธิพล

อย่าง "มะบ๊ะต๊ะ" (Ma Ba Tha) ใช้มุสลิมชาวโรฮิงยามาเป็นประเด็น

ในการโจมตี โดยกล่าวหาว่า พวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อชาติ ปฏิเสธว่า

ชาวโรฮิงยานั้นไม่มีสัญชาติเมียนมาร์ แต่เป็นพวกลอบเข้าเมืองอย่าง

ผิดกฏหมายที่มาจากบังคลาเทศ


“พวกโรฮิงยาเกือบทั้งหมดเป็นพวกที่อยู่อย่างผิดกฏหมาย ดังนั้นมัน

เป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องหยุดยั้งรัฐบาลใหม่ที่จะให้สัญชาติกับ

คนพวกนี้ ซึ่งมันจะทำให้เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศของเรา” 

นาย Latt ประธานกลุ่มยุวชน Myanmar National Network กล่าวปิด

ท้าย


ที่มาของข่าวและภาพ –

Burmese Buddhist Monks Love Muslim-Hating Trump
http://www.thedailybeast.com/…/burmese-buddhist-monks-love-…

 ดูข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
1. "พระวีระธู"ผู้นำปลุกปั่นให้ชาวพุทธเกลียดชังมุสลิม เข้ารับรางวัลที่วัดธรรมกาย
https://www.facebook.com/muslim.aof/posts/1539016009726115
2. กลุ่มพระไทยเสนอช่วยเครือข่ายพระพม่าสายต้านมุสลิม ตั้งสถานีวิทยุ ท่ามกลางกระแสเกลียดชังระหว่างศาสนาที่ระอุมากขึ้น
https://www.facebook.com/muslim.aof/photos/pb.1437750509852666.-2207520000.1458163174./1503438456617204/?type=3&theater
3. วีดีโอสารคดีอัลญะซีเราะฮฺ
 พระวีระธุและพวกพ้องนำประเด็นเท็จเรื่องข่มขื่น มาใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นให้เกิดการใช้ความรุนแรงระหว่างเชื้อชาติได้อย่างไร?
https://www.facebook.com/muslim.aof/videos/1508068369487546/

"พระวีระธู"ผู้นำปลุกปั่นให้ชาวพุทธเกลียดชังมุสลิม เข้ารับรางวัลที่วัดธรรมกาย

วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:12 น.


เมื่อวันที่ 16 มี.ค. สมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้าน

พุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ค Somrit 

Luechai ระบุว่า ดร.ลลิตา หาญวงษ์ บอกว่ามหาจุฬาฯเชิญวิราธุ 

(Virathu) ไปเยี่ยมด้วยพร้อมเปิดภาพให้ผมดู มีภาพหนึ่งมีพระชูป้าย 

"we love Virathu" ผมทั้งแปลกใจและตกใจที่มากยิ่งขึ้นจากข่าวนี้ 

มหาจุฬาฯคือสถาบันการศึกษาของฝ่ายมหานิกาย กลับอ้าแขน

ต้อนรับคนที่ยุยงให้คนเกลียดกันและฆ่ากัน ยิ่งกว่านั้นชาวพุทธใน

ไทยก็ดูจะวางเฉยต่อเรื่องนี้ ซึ่งปรกติจะดิ้นร่าวๆ คำถามก็คือเรื่องนี้

เป็นวิกฤตต่อพุทธศาสนาทั้งอรรถะและพยัญชนะ แต่เหตุใดชาวพุทธ

ไทยกลับมองไม่เห็น หรือว่ากลียุคเริ่มแล้ว



ส่วนดร.ลลิตา หาญวงษ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ในเฟ

ซบุ๊ค Lalita Hanwong ระบุว่า ข่าวที่บอกว่าพระวีระธู ผู้นำปลุกปั่นให้

ชาวพุทธพม่าเกลียดชังคนมุสลิม มาเมืองไทยเพื่อมารับรางวัลที่วัด

พระธรรมกายและพานักศึกษาพระพม่าไปดูงานถึงมหาจุฬาฯนั้นเป็น

ความจริง แต่ไม่มีสื่อใดในไทยที่ตีข่าวเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่

มาก พฤติกรรมของทั้งธรรมกายและมหาจุฬาที่อ้าแขนรับวีระธูในครั้ง

นี้ชี้ให้เห็นตรรกะและแนวคิดของสงฆ์ไทยบางกลุ่มที่มีลักษณะ 

xenophobic และพยายามเคลื่อนไหวหาแนวร่วมผ่านเครือข่ายพุทธ

เถรวาทในหลาย ๆ ประเทศ



นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. พระวีระธูได้โพสต์ใน

เฟซบุ๊ค Wira Thu ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมา

รับรางวัลที่ประเทศไทย



สำหรับพระวีระธู ผู้นำพระสงฆ์และชาวพุทธในพม่า ที่ตั้งกลุ่มก่อต้าน

ชาวโรฮิงยา และชาวมุสลิมในพม่า จนเกิดเหตุจลาจลระหว่างชุมชน 

ที่รัฐอาระกันของพม่า และได้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นในพม่า โดยนิตย

สารไทม์เคยตีพิมพ์เรื่องของ พระวีระธู โดยโปรยตัวอักษรที่หน้าปก

ว่า "โฉมหน้าชาวพุทธผู้สร้างความหวาดกลัว: กองกำลังพระสงฆ์เติม

เชื้อความรุนแรงต่อต้านมุสลิมในเอเชียได้อย่างไร"



นอกจากนี้ในเล่ม ยังมีเรื่องจากปกพาดหัวว่า "เมื่อชาวพุทธคลั่ง" 

หรือ "When Buddhists Go Bad" โดยโปรยว่า "ศาสนาพุทธมีชื่อ

เสียงในเรื่องความรักสงบและอดทนอดกลั้น แต่ในหลายประเทศของ

เอเชีย พระสงฆ์กำลังเป็นผู้กระตุ้นให้เกิดความดื้อรั้นและความรุนแรง 

โดยส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อต่อต้านมุสลิม"



ทั้งนี้พระวีระธู ซึ่งขนานนามตัวเองว่าเป็น "บิน ลาเดน แห่งพม่า" เป็น

ผู้ที่นำพระสงฆ์ออกมาเดินขบวนในมัณฑะเลย์เพื่อสนับสนุนแผนการ

ส่งตัวชาวโรฮิงยาไปยังประเทศที่ 3 ของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง และ

เขายังเป็นผู้สนับสนุนโครงการ "969" ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนให้

ชาวพุทธซื้อของจากร้านค้าชาวพุทธด้วยกัน


ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊ค Somrit Luechai และ Lalita Hanwong

ที่มา -
1. ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php…
รูปภาพ: เฟสบุ๊กส์พระวีระธู
https://www.facebook.com/ven.wirathumsy/posts/802851593191684?pnref=story
*****เครดิต: สายัณห์ สุขจันทร์*****
 อ่านข่าวและดูคลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้:
1. กลุ่มพระไทยเสนอช่วยเครือข่ายพระพม่าสายต้านมุสลิม ตั้งสถานีวิทยุ ท่ามกลางกระแสเกลียดชังระหว่างศาสนาที่ระอุมากขึ้น
https://www.facebook.com/muslim.aof/photos/pb.1437750509852666.-2207520000.1458163174./1503438456617204/?type=3&theater

หลักฐานชี้ชัดว่ารัฐบาลเมียนมาร์จงใจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงยา

15 ธันวาคม 2015



ที่มา - 

อัลญะซิเราะฮฺ (AlJazeera Investigative Team)

พระวีระธุและพวกพ้องนำประเด็นเท็จเรื่องข่มขื่น มาใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่นให้เกิดการใช้ความรุนแรงระหว่างเชื้อชาติได้อย่างไร?



เรื่องนี้จัดทำขึ้นมาโดยทีมสอบสวนของสำนักข่าวอัลญะซีเราะฮฺ ซึ่งมีการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์การจราจลในมัณฑะเลย์เมื่อปีที่แล้ว (2014) ที่มีผู้เสียชีวิต และจากเหตุการณ์นั้นทำให้มุสลิมไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกเลย


ที่มา -
ทีมสอบสวนอัลญะซีเราะฮฺ (Aljazeera investigative team)

Monday, March 14, 2016

เด็กสองพี่น้องชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการที่กองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มฉนวนกาซ่า

เด็กสองพี่น้องชาวปาเลสไตน์ เสียชีวิตจากการ

ที่กองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มฉนวนกาซ่า


12 มีนาคม 2016



รัฐอิสราเอลส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดลงฉนวนกาซ่าในวันเสาร์ที่ 12 
มีนาคม 2016 โดยบางส่วนของระเบิดได้ตกลงกลางบ้านที่สร้างขึ้นชั่วคราวของครอบครัวชาวปาเลสไตน์ ที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฉนวนกาซ่าในเบทต์ ลาฮิยา Beit Lahia ในขณะที่เด็กๆ และครอบครัวกำลังนอนหลับพักผ่อนกันอยู่ในช่วงเวลาเช้าตรู่  ทำให้ด.ช.ยาซีน อบู คูซ่า Yassin Abu Khosa อายุ 10 ขวบซึ่งเป็นพี่ชายเสียชีวิตในทันที  และน้องสาววัย 6 ขวบคือด.ญ. อิสระอฺ  Isra’a ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล  Shifa Medical Center ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน   ส่วนพี่ชายคนโตคือด.ช.อัยยูบ Ayub วัย 12 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน แต่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล



ส่วนทางกองทัพอิสราเอลได้อ้างว่า เครื่องบินรบของกองทัพได้พุ่งเป้าถล่มโจมตีไปที่ค่ายฝึกทหารของกลุ่มฮามาส 4 แห่งด้วยกัน  เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ฮามาสได้ยิงจรวดเข้าไป3 ลูกในเขต Sderot settlement ทางตอนใต้ของเนเกฟ Negev ซึ่งเป็นแหล่งตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอล เมื่อตอนเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา (11/03/16) และไม่ปรากฏว่ามีชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด



เหตุการณ์อันน่าสลดคล้ายๆ กันนี้ ได้เกิดขึ้นมาก่อนในเดือนกันยายน ปีที่แล้ว  เมื่อกองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดทางอากาศลงบริเวณบ้านของชาวปาเลสไตน์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่า ทำให้บ้านถล่มลงมาทับร่างเด็กน้อยวัย 5 ขวบและมารดาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยทั้งคู่เสียชีวิตในทันที




เมื่อเดือนที่แล้วเด็กอายุ 5 ขวบเสียชีวิตจากวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากสงครามในกาซ่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา  และชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าเสียชีวิตบริเวณชายแดนที่อยู่ติดกับอิสราเอล  จากการที่ถูกทหารอิสราเอลใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วงระหว่างการประท้วงรัฐอิสราเอลที่มีขึ้นทั่วปาเลสไตน์

****คลิปวีดีโอเพิ่มเติม: น้องสาววัย 6 ขวบไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล****

ที่มา –



3. เครดิต YouTube วีดีโอ: Middle East Monitor และ Palestinian Media Centre

กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...