ผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงที่มัสยิดในไครสต์เชิร์ชที่เป็นมุสลิมผิวขาวชาวอังกฤษ ได้ขอบคุณผู้ก่อการร้ายผิวขาวชาวออสซี่ ที่ทำให้เขาเพิ่มความศรัทธาต่อศาสนาอิสลามมากยิ่งขึ้น
ขอเชิญชวนพี่น้องผู้ศรัทธาร่วมกัน ถือศีลอดสุนนะฮฺทั้งวันที่ 9 และ 10 ของเดือนมุฮัรรอม
▶ สิ่งที่ควรปฏิบัติในเดือนมุฮัรร็อม คือการถือศีลอดในวันที่ 10
วันที่สำคัญในเดือนมุฮัรร็อมคือวันที่ 10 เรียกวันนี้ว่าวันอะชูรอ สิ่งที่ควรปฏิบัติในวันอะชูรอคือการถือศีลอด ดังปรากฏในรายงานจากอิบนฺ อับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺมากล่าวว่า: ท่านนบี ซอลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เดินทางไปยังนครมาดีนะฮ์ ท่านได้เห็นชาวยิวถือศีลอดในวันอะชูรอ ท่านนบีได้ถามพวกเขาว่า : วันนี้เป็นวันอะไร? พวกเขากล่าวว่า : วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ เป็นวันที่อัลลอฮ์ทรงให้นบีมูซาและชาวอิสรออีล ได้รับความปลอดภัย และให้ฟิรเอาน์ กับพรรคพวกของเขาจมน้ำ ท่านนบีมูซาจึงได้ถือศีลอดในวันนี้เพื่อขอบคุณอัลลอฮ์ ท่านนบีได้กล่าวว่า :
" فأنا أحقُّ بموسى منكم " فصامه وأمَر بِصيامِه .
ฉันนั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะดำเนินตามมูซายิ่งกว่าพวกท่าน ท่านนบีจึงถือศีลอด และใช้ให้ (มุสลิม) ถือศีลอดด้วย
(บันทึกโดยอัลบุคอรี หมายเลขหะดีษ 2004)
▶ การถือศีลอดในวันที่ 9 ของเดือนมุฮัรรอม
นอกเหนือจากการถือศีลอดในวันที่ 10 แล้ว ยังมีซุนนะฮ์ให้ถือศีลอดในวันที่ 9 เรียกว่าวันตาซูอาอ์อีกด้วย ท่านนบีได้ให้เหตุผลในการให้ถือศีลอดวันที่ 9 ว่า เพื่อให้มีความแตกต่างกับชาวยิวที่ได้กำหนดให้ถือศีลอดในวันอาชูรอเพียงวันเดียว ท่านรอซูลได้กล่าวว่า
" لئن بقيتُ إلى قابلٍ لأصومنّ التاسع "
ถ้าหากว่าฉันยังคงมีชีวิตอยู่ในปีต่อไป ฉันจะถือศีลอดในวันที่9 ด้วย
(บันทึกโดย อะห์หมัด หมายเลขหะดีษ 1736 และมุสลิมหมายเลขหะดีษ 1134 )
จากเหตุผลของซุนนะฮ์ข้อนี้ ทำให้ทราบถึงเจตนารมณ์ของอิสลามอย่างหนึ่งก็คือการไม่ทำอะไรตามอย่างชนต่างศาสนิก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนกิจ แม้ว่าศาสนกิจนั้นๆจะมีความละม้ายคล้ายคลึงกันก็ตาม
ที่มา - Islammore
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2013 ประธานาธิบดีบัชชาร์อัล-อัสซาด ผู้นำเผด็จการจอมโหด ทิ้งระเบิด บรรจุแก๊สพิษซารินโจมตีประชาชนที่เห็นต่างจากเขาในตอนตี 3 ขณะที่พวกเขากำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บ้านในอีสเทิร์น กูตา ชานเมืองของดามัสกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,400 คน ซึ่งมีเด็กที่เสียชีวิตด้วยถึง 426 คน และมีผู้บาดเจ็บ 3,000 คน
🔴🎬 มีภาพที่รุนแรงต่อความรู้สึก
เข้าไปดูคลิปได้ที่: https://twitter.com/muslimahau/status/1297544826091577345?s=21
7 ปีผ่านไป บัชชาร์และครอบครัวยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ประชาชนที่สูญเสียลูกหลานคนในครอบครัวไป ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด
ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.hrw.org/report/2013/09/10/attacks-ghouta/analysis-alleged-use-chemical-weapons-syria
อิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มกาซ่าอย่างหนักติดต่อกันเป็นคืนที่ 10 แล้ว (ตั้งแต่คืนวันพฤหัสจนถึงเช้าวันศุกร์) ในคลิปเด็กบอกกับแม่ว่า “พาหนูไปหลบระเบิดเร็ว หนูกลัว” เด็กพูดกับแม่ตอนระเบิดของอิสราเอลตกลงใกล้บ้าน ในคลิปเรายังได้ยินเด็กกล่าวกาลีเมาะฮฺ ชะฮาดะฮฺ ด้วยความหวาดกลัวว่าตัวเองกำลังจะตาย!
ล่าสุดอิสราเอลใช้คำอ้างในการทิ้งระเบิดถล่มกาซ่าว่า เป็นการตอบโต้ฮามาสที่ยิงจรวดเข้าไปยังอิสราเอล การโจมตีครั้งล่าสุด กาซ่ามีความเสียหายเล็กน้อยที่บริเวณพื้นที่อัล-มักกาซีย์ และค่ายลี้ภัยอัลบุร็อญในค่านยูนิส อิสราเอลเริ่มถล่มกาซ่าครั้งใหม่ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. แล้ว แต่ครั้งล่าสุดเป็นการทิ้งระเบิดติดต่อกันเป็นคืนที่10 แล้ว
ในข่าวของสื่อกระแสหลักต่างพากันประโคมข่าวว่า อิสราเอลตอบโต้ฮามาสที่ยิงจรวดไปยังอิสราเอลทั้งหมด 12 ลูก ทำให้ชาวอิสราเอลบาดเจ็บ 5 ราย ที่บาดเจ็บไม่ใช่จากมิสไซล์แต่อย่างใด... 3 คนตกใจกลัวอย่างรุนแรง (panic attack) อีก 2 คนลื่นล้มขณะวิ่งหนีไปหลบในบังเกอร์
คืออิสราเอลเล่นถล่มกาซ่าติดต่อกันถึง 10 วัน ฮามาสจะอยู่เฉยๆ โดยไม่โต้ตอบบ้างหรือยังไง อิสราเอลชอบสร้างโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อกระแสหลักทั่วโลกว่า ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วอิสราเอลเป็นฝ่ายกดขี่ข่มเหงชาวปาเลสไตน์ตลอดมา ตั้งแต่วันที่จัดตั้งรัฐมาจนถึงปัจจุบัน.... 72 ปีมาแล้วที่ชาวปาเลสไตน์ไม่เคยอยู่บนแผ่นดินตนเองอย่างมีความสุข สงบสุข เหมือนเพื่อนร่วมโลกคนอื่นๆ เขา
ล่าสุดโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่เหลือเพียงโรงเดียวต้องหยุดตัวลง เนื่องจากไม่มีเชื้อเพลิงเหลืออยู่อีกแล้ว อิสราเอลเป็นฝ่ายปิดพรมแดนสกัดกั้นการนำเข้าเชื้อเพลิงและสินค้าสำคัญๆเข้าไปยังกาซ่า โรงพยาบาลเองก็ประสบปัญหาหนัก เริ่มขาดแคลนเชื้อเพลิงสำหรับเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้ในแผนกผ่าตัดและในส่วนอื่นๆ ของโรงพยาบาล
ชาวประมงนับแสนคนก็กำลังจะอดตายออกไปหาปลาไม่ได้ เพราะอิสราเอลจำกัดระยะการเดินเรือ และมีการจู่โจมทำร้ายชาวประมง และยิงเรือประมงล่มไปหลายลำแล้ว
ที่มาของข้อมูล:
Middle East Eyes
อิสราเอลอ้างว่าเป็นการตอบโต้ที่มีลูกโป่งระเบิดลอยจากกาซ่าไปตกที่อิสราเอล
ทั้งบ้านเรือน โรงเรียนประถมที่เป็นของ UNRWA และพื้นที่สำหรับการเกษตร ตกเป็นเป้าโจมตีทั้งสิ้น ได้รับความเสียหาย แต่อิสราเอลกลับโกหกว่าโจมตีเฉพาะฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสเท่านั้น
ล่าสุดกาซ่าวิกฤตหนัก ไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชม. เพราะอิสราเอลสั่งระงับการส่งเชื้อเพลิงทุกประเภทข้ามแดนมายังกาซ่า ชาวประมงก็กำลังจะอดตาย หาปลาไม่ได้เนื่องจากอิสราเอลลดรัศมีการล่องเรือจับปลาจากชายฝั่งฉนวนกาซาให้เหลือเพียง8 ไมล์ทะเล จากปกติคือ 15 ไมล์ทะเล ซึ่งการกระทำของอิสราเอลถือเป็นการผิดกฏหมายนานาชาติ แต่กลับไม่ชาติใดต้องการกดดันอิสราเอลให้ยุติความรุนแรง กดขี่ข่มเหงชาวปาเลสไตน์
ที่มา:
https://english.alaraby.co.uk//english/news/2020/8/18/israel-bombs-gaza-for-eighth-day-in-a-row
https://www.middleeastmonitor.com/20200813-israel-strikes-school-in-gaza-refugee-camp/
#PalestinianLivesMatter
#GazaUnderAttack
คลิปเมื่อคืนวาน อิสราเอลยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดถล่มกาซ่าติดต่อกันมากกว่า 8 วันแล้ว โดยใช้ข้ออ้างว่าฮามาสส่งมิสไซล์ไปยังอิสราเอล
อิสราเอลยังขู่ฮามาสด้วยว่า กาซ่าอาจจะเจอสงครามครั้งใหม่ หากทางฮามาสไม่สามารถหยุดยั้งลูกโป่งติดระเบิดที่ลอยเข้าไปในอิสราเอล ทำให้เกิดไฟไหม้ในที่โล่ง
ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าก็มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมากขึ้นไฟฟ้าก็มีใช้เพียง 3-4 ชม.ต่อวันในตอนนี้ เนื่องจากวิกฤตขาดแคลนไฟฟ้าที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด เป็นผลมาจากการที่ถูกอิสราเอลสั่งระงับการส่งเชื้อเพลิงทุกประเภทข้ามแดนมายังกาซ่า
ส่วนชาวประมงก็ออกหาปลาไม่ได้เลย พอเวลาจะนำเรืออกหาปลา ทหารเรืออิสราเอลก็รีบสกัดเรือประมงทันที และพร้อมที่จะทำร้ายชาวประมงและล่มเรือของชาวปาเลสไตน์
อ้างอิง:
https://www.france24.com/en/20200819-israel-bombs-gaza-after-warning-hamas-it-risks-war
กองกำลังอิสราเอลยิงแม่ลูกอ่อนชาวปาเลสไตน์เข้าที่หน้าอกอย่างเหี้ยมโหด ขณะที่นางพยายามปิดหน้าต่างในห้องครัวเพราะแก๊สน้ำตาที่รั่วไหลเข้าไปในบ้าน
นางดารีอะห์ สะมูดี Dalia Samoudi แม่ลูกอ่อนวัย 23 ปี ตื่นขึ้นมาตอนรุ่งเช้าเพื่อจะให้นมลูกน้อย
รุ่งเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา 7/08/20 กองกำลังอิสราเอลได้บุกรุกเข้ามาในชุมชนอัล-ญะบาริยัตของเมืองเจนิน เวสแบงก์ และบุกพังบ้านอดีนักโทษและขู่ลอยๆว่า จะจับเข้าคุกอีก
เยาวชนชาวปาเลสไตน์จึงตอบโต้ โดยพวกเขาพยายามปิดกั้นไม่ให้กองกำลังอิสราเอลบุกลึกเข้าไปในเมืองมากกว่านี้ จึงทำให้ทหารอิสราเอลเปิดฉากยิงใส่กลุ่มเยาวชน
สื่อปาเลสไตน์ท้องถิ่นรายงานข่าวว่า กองกำลังอิสราเอลยังได้ยิงแก๊สน้ำตา ปาระเบิดเสียงและใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ประท้วง
ส่วนตัวของดารีอะห์เองได้อุ้มลูกเดินไปปิดหน้าต่างในห้องครัว เพราะควันของแก๊สน้ำตาลอยเข้ามาในบ้าน แต่ทหารอิสราเอลกลับเล็งปืนยิงไปที่หน้าอกของดารีอะห์อย่างเหี้ยมโหด
“ฉันถูกยิงบัสเซ็ม ช่วยดูแลเด็กๆ ด้วย” ดารีอะห์ตะโกนเรียกสามี ก่อนที่นางจะล้มลงเลือดนองพื้น กระสุนทะลุเข้าไปในตับ ตับอ่อน และกระสุนตัดเส้นเลือดแดงใหญ่
Wafa ซึ่งเป็นสำนักข่าวท้องถิ่นของปาเลสไตน์ อ้างถึงนายมะห์มูด อัล-ซาดีย์ ผู้อำนวยการสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ (Palestine Red Crescent Society) เล่าว่า กองกำลังอิสราเอลยังได้ยิงปืนใส่รถพยาบาลที่พยายามไปรับดารีอะห์ ซึ่งพบรอยกระสุนที่รถ 2 รู
ดารีอะห์ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในตอนบ่ายของวันเดียวกัน
นายอะห์หมัด อิสติตีย์ พ่อของดารีอะห์ เล่าด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดว่า “ฆาตกรเลือดเย็นที่ฆ่าลูกสาวผม ที่ไม่ใช่เป็นเหยื่อรายแรก แล้วก็ไม่ใช่ที่จะเป็นรายสุดท้ายมันเป็นนโยบายที่จัดมาอย่างเป็นระบบโดยอิสราเอลผู้ยึดครองที่ทำกับผู้หญิง เด็กและผู้สูงอายุของพวกเรา ขณะที่พวกเขาอยู่ในบ้าน โดยที่เราไม่สามารถที่จะต่อต้านหยุดยั้งโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซำ้เล่าได้เลย”
ที่มา:
https://mondoweiss.net/2020/08/young-palestinian-woman-killed-by-israeli-forces-in-jenin/
https://ppost24.com/post/791/it-is-early-to-leave-us-alone-palestinian-infant-tells-his-mother
จากทวิตเตอร์ของ@tonysalame_1 ระบุหลักฐานจากคลิปจากกล้องวงจรปิดของวันที่ 4 ส.ค. 2020
ว่าเป็นการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล
ซึ่งดูจากชายสวมเสื้อยืดสีขาวที่มองขึ้นไปบนฟ้า
ขณะที่ชายสวมเสื้อสีดำทำมือลักษณะหมุนเป็นวงกลม
คล้ายกับว่าเขาเห็นเครื่องบินที่บินวนอยู่
หลังจากนั้นเขาทั้งคู่ก็ชี้ขึ้นไปบนฟ้า
ซึ่งอีกไม่กี่วินาทีก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นมา
🎬 คลิปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
คนงานท่าเรือส่งถ่ายคลิปบอกว่ามีการถูกทิ้งระเบิดถึง
2 ครั้งที่ท่าเรือเบรุต
ก่อนระเบิดครั้งใหญ่
https://www.youtube.com/watch?v=LiXTAmnRAJ8
คนงานท่าเรือส่งคลิปนี้ไปหาพ่อแม่เพื่อบอกว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ในคลิปบอกว่ามีเครื่องบินทิ้งระเบิดลงที่ท่าเรือเบรุตถึง 2 ครั้ง และเขาและเพื่อนร่วมงานก็บาดเจ็บมาก
แต่ที่น่าเศร้าที่สุดก็คือเขาเสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นานจากระเบิดครั้งที่
2
โดรนหุ่นยนต์นก (Bionic Bird) ที่ลอยล่องไปตามตึก และบินไปยังโกดังที่เกิดไฟไหม้อยู่แล้ว จากนั้นก็เกิดระเบิดครั้งใหญ่ ซึ่งเทียบได้กับหนึ่งในสิบของพลังระเบิดปรมาณูที่ถูกทิ้งลงในเมืองฮิโรชิมาเลยทีเดียว
คลิปที่เกี่ยวข้องกับข่าวนี้:
https://theothersideofthestorymuslimah.blogspot.com/2020/08/blog-post_5.html
ตื่นมาละหมาดซุบฮิแล้วเช็คข่าวตามปกติ รู้สึกตกใจมากเมื่อดูคลิประเบิดในเบรุตตอนนั้นในใจลึกๆ คิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุอย่างแน่นอน พอตอนเย็นได้ส่งข้อความไปถามผู้ใหญ่เลบานิสคนหนึ่งที่สนิทกันที่อยู่ในออสเตรเลีย ถามไถ่ว่ามีคนในครอบครัวเป็นอะไรมั้ย? ดีใจเมื่อรู้ว่าไม่มีใครเป็นอะไร
เลยถามว่าคิดมั้ยว่ามันเป็นอุบัติเหตุ คุณน้าตอบมาว่าไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน ถามต่อว่าแล้วเป็นไปได้มั้ยว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล คุณน้าตอบกลับมา “ใช่ ฉันคิดว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง” ถามคุณน้าว่าทำไมถึงเชื่อว่าอิสราเอลเป็นคนทำ คุณน้าบอกว่าเมื่อไม่กี่วันมานี่เองที่อิสราเอลยังขู่ว่าจะจัดการกับเลบานอนอยู่เลย
พอมาไล่อ่านข่าว ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ออกมาบอกกับนักข่าวว่า เหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่ในเลบานอน “ดูเหมือนว่าเป็นการโจมตีที่น่ากลัวมาก ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุ” นักข่าวจึงได้ถามทรัมป์ว่ารู้ได้ยังไง ทรัมป์ตอบว่าเจ้าหน้าที่ทหารระดับยศพล.อ. หลายนายบอกทรัมป์เช่นนั้น
ส่วนทางอิสราเอลเองรีบออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งใหญ่ในครั้งนี้
ที่น่าสนใจก็คือ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮิสบุลลอฮฺรีบออกมาปกป้องอิสราเอลในทีว่า อิสราเอลไม่ได้เป็นผู้ลงมือโจมตีเลบานอนแต่อย่างใด
ที่น่าสงสัยก็คือ ทางรัฐบาลเลบานอนเองยังไม่ได้มีการเริ่มสืบสวนสอบสวนในเชิงลึกเลยด้วยซ้ำไป แต่ฉะไหนฮิสบุลลอฮฺถึงรีบออกมาปกป้องอิสราเอลซะขนาดนี้ อ้าวไหนบอกเป็นศัตรูกันไม่ใช่เหรอ
คอยติดตามว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ.......
อ้างอิงข้อมูล:
https://www.timesofisrael.com/israeli-involvement-in-massive-beirut-blast-ruled-out-by-both-sides/
#PrayforLebanon
รัสเซียทิ้งระเบิดถล่มเมืองบินนิชในอิดลิบ สังหารประชาชนไป 3 คน เด็กบาดเจ็บ 5 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คน
เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 3 ส.ค. 20) กองทัพรัสเซียได้ทิ้งระเบิดถึง 5 ครั้ง แถมยังได้ยิงปืนใหญ่เข้ามาในพื้นที่อีก 5 ลูกในช่วงตอนเช้าตรู่ ถล่มเต้นท์ประชาชนชาวซีเรียที่ต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยภายในประเทศ ขณะที่พวกเขาพากันออกมานอนกันนอกเต้นท์ ส่งผลให้คนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิตทันที 3 คน 2 คนต้องบาดเจ็บสาหัส และอีก5 คนที่บาดเจ็บเป็นเด็กทั้งหมด โดยเหตุโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นที่เมืองบินนิช ในอิดลิบ
รายชื่อผู้เสียชีวิต:
มาญิด บิน จาสซิม อับ-มูฮัมหมัด Majid bin Jassim Al-Muhammad
มาญิด บิน มุสเละฮฺ อัล-มูฮัมหมัด Majid bin Musleh Al-Muhammad
แซดด บิน มุสเละฮฺ อับ-มูฮัมหมัด Zaid bin Musleh Al-Muhammad
ทั้งครอบครัวลี้ภัยมาจากหมู่บ้าน Burj ชนบทของเมืองซารากิบ (Saraqib) ทางตอนเหนือของอิดลิบ
🎬 ดูคลิปได้ที่:
https://www.facebook.com/1072860619570646/posts/1375868719269833/
เด็กทั้ง 3 คนนี้ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า เพราะรัสเซียฆ่าครอบครัวของพวกเขา
เครดิต: Fared_Alhor, Mohammed Ghorab และ Dr Shajul Islam
แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...