Tuesday, December 17, 2019

จากชาวบ้านที่รับจ้างตัดไม้กลายไปเป็นโจรใต้ไปได้ยังไง?


ข่าวจากสื่อกระแสหลักเสนอว่าเป็นการปะทะกัน แต่ดูจากสภาพผู้เสียชีวิตเหมือนจับนั่งคุกเข่า แล้วจ่อยิงที่ศีรษะทีละคน

อ้างจากสำนักข่าวหลายแห่งในไทยต่างเสนอข่าวตรงกันว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 18.00 น. พ.อ.ธีร์พัชร์ เมพันธุ์ ผบ.ฉก.ทพ.45 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จัดกำลังชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ฉก.ทพ.45 จำนวน 3 ชุด หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธได้เคลื่อนไหวเพื่อประชุมวางแผนก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเดินลาดตระเวนอยู่บนเทือกเขา ช่วงบริเวณหลังหมู่บ้านอาแน ม.8 ต.บองอ


เจ้าหน้าที่พบกับกองกำลังติดอาวุธ จำนวน 6 ถึง 7 คน และเมื่อกองกำลังติดอาวุธพบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้ปะทะกันที่เขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เบื้องต้นผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 3 ราย เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธปืน AK 47 จำนวน 1 กระบอก ปืนพก 1 กระบอก โดยอ้างว่าคนร้ายที่ถูกวิสามัญมีคดีความมั่นคงด้วย


ผู้เสียชีวิตคือ 1. นายมะนาซี สะมะแอ อายุ 27 ปี 3. นายฮาพีซี มะดาโอะ อายุ 24 ปี 3. นายบูดีมัน มะลี อยายุ 26 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาวต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส


ครอบครัวของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในหมู่บ้านต่างออกมายืนยันว่า ทั้งสามคนมีอาชีพรับจ้างขนไม้/ตัดไม้ และไม่เคยมีคดีความมั่นคงอย่างที่ตกเป็นข่าว


ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แทบนั้นได้ยินเสียงปืนตอนเวลาประมาณ 10.00 น. พยาน 3 คนที่รอดชีวิตมาได้วิ่งกลับมาบอกชาวบ้านในหมู่บ้านเวลา 11.00 น. ซึ่งต่างจากการเสนอข่าวของสื่อกระแสหลักว่า มีการยิงปรทะกันเกิดขึ้นตอน 18.00 น. เมื่อเวลา 17.00 น. ฉก. 45 นำชาวบ้านพร้อมชรบ. 6 คน ขึ้นเขาไปครึ่งทางแล้วต้องกลับมาเพราะทหารบนเขาไม่ยอมให้ขึ้นไปในเวลานั้น ซึ่งกว่าจะได้ศพกลับมาทำพิธีทางศาสนาก็เป็นเวลา 20.00 น.ของวันที่ 17 ธ.ค. อีกหนึ่งวันหลังจากถูกวิสามัญ กินเวลาไป 35 ชม.


ล่าสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วหน้าออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ยอมรับแล้วว่าทั้ง 3 คนที่ถูกวิสามัญเป็นเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านเท่านั้น มิใช่เป็นผู้ก่อการร้ายแต่อย่างใด และยังอ้างว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง แต่เข้าใจผิดว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้ก่อการร้าย มีการให้คำมั่นสัญญาว่าจะรับผิดชอบ และจะนำเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนทางกฏหมาย พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนของหน่วยเพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและทางอาญาขั้นเด็ดขาดไม่มีข้อละเว้น


นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสราะจากผู้แทนของทุกภาคส่วนที่ได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานอย่างเป็นอิสระและโปร่งใสในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้เหมาะสอม และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย



ที่มา –
สำนักข่าวWartani
เฟสบุ๊กส์ ThaiPBS ศูนย์ข่าวภาคใต้
ด่วน!!!ทหารปะทะเดือดโจรใต้ เด็ดหัว 3 ศพกลางเขาตะเว
https://www.naewna.com/local/460655
รู้ตัวแล้ว 3คนร้ายป่วนใต้ ยิงปะทะเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกจับตาย บนเขาตะเว
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3201580
เดือด! ทหารพรานยิงปะทะโจรใต้ดับ 3 บนเทือกเขาตะเว ยึดปืน 2 กระบอก
https://mgronline.com/south/detail/9620000119931

Thursday, December 12, 2019

“ออง ซาน ซูจี” ขึ้นศาลโลก ปฏิเสธข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา



นางซู จี กล่าวเปิดการชี้แจงและแก้ต่างต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) ปฏิเสธข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาต่อเมียนมาที่แกมเบียนำเสนอต่อศาลเป็นข้อมูลที่ "ไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้อง" ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมระบุว่า ปัญหาความรุนแรงในรัฐยะไข่เป็นเรื่องซับซ้อนและมีมานานย้อนกลับไปหลายร้อยปี


นางซู จี ชี้แจงว่า สถานการณ์ความรุนแรงที่รัฐยะไข่ในปัจจุบันมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธที่มีแนวคิดสุดโต่ง เช่น กลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวพุทธ Arakan Army ที่ต้องการปกครองตนเอง หรือเอกราชในรัฐยะไข่ ส่งผลให้พลเรือนจำนวนมากในรัฐยะไข่ต้องหนีความรุนแรงออกจากพื้นที่


นอกจากนี้ยังมีกองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน หรือ อาร์ซา (ARSA) ซึ่งก่อเหตุโจมตีป้อมตำรวจหลายแห่งในมืองมองดอว์ ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ใกล้กับพรมแดนบังกลาเทศ ส่งผลให้เกิดความรุนแรงครั้งใหญ่ในปี 2017 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และชาวโรฮิงญากว่า 73,000 คน ต้องอพยพลี้ภัยหนีตายเข้าไปยังบังกลาเทศ

“เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ที่แกมเบียนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาล โดยบิดเบือนสถานการณ์ที่แท้จริงในรัฐยะไข่ ของเมียนมา เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ศาลจะพิจารณาประเมินสถานการณ์และได้รับข้อมูลจริงจากพื้นที่อย่างไร้อคติและแม่นยำ” ออง ซาน ซูจี กล่าว


ขณะที่บริเวณนอกศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กลุ่มชาตินิยมเมียนมารวมตัวกันถือป้ายข้อความและรูปภาพของซูจี เพื่อร่วมให้กำลังใจและสนับสนุนซูจีในการต่อสู้คดี


ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมอีกจำนวนหนึ่งต่างตะโกนข้อความเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวโรฮิงญา พร้อมกล่าวหาซูจีว่าเป็นผู้ที่ทรยศต่อประชาคมโลก


ในวันเดียวกัน (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวโรฮิงญาที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ แสดงความไม่พอใจระหว่างชมการถ่ายทอดสดจากศาลยุติธรรม พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การเท็จต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ด้วยการพูดคำโกหกทั้งหมดเพื่อที่จะได้มีอำนาจต่อไปในรัฐบาล ทั้งที่ความเป็นจริงทหารเมียนมาจับชาวโรฮิงญาไปทรมาน สังหาร ข่มขืน และเผาบ้านชาวโรฮิงญาไปแล้วเป็นจำนวนมาก


ทั้งนี้ การตัดสินคดี จะต้องใช้เวลาอีกหลายปี ซึ่งขณะนี้ แกมเบีย ได้ยื่นขอให้ศาลกำหนดมาตรการชั่วคราวเพื่อปกป้องชาวโรฮิงจาในเมียนมาและประเทศอื่นๆ จากภัยคุกคามหรือความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ หากผลตัดสินมีความผิด นาง ออง ซาน ซู จี และ กองทัพจะไม่ถูกจับกุม หรือ โดนไต่สวน แต่การพิจารณาคดีอาจนำไปสู่การคว่ำบาตร ทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง และเศรษฐกิจที่สำคัญต่อเมียนมาต่อไป


อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ศาลโลกมีการขึ้นบันลังค์พิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์



ที่มาของคลิป: VOA Thai
https://www.youtube.com/watch?v=bIfWFBpRMjk
ที่มาของข้อมูล:
https://workpointnews.com/…/myanmar-justice-rohingya-genoc…/
https://www.bbc.com/thai/international-50743093
https://news.thaipbs.or.th/content/287002

Tuesday, December 10, 2019

ชำแหละ 9 ข้อบิดเบือนข้อมูลของกลุ่มอปพส.



ชำแหละทีละข้อ!!! นายสายัณห์ สุขจันทร์ ประธานศูนย์พิทักษ์ธรรม ออกมาไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส์ส่วนตัวชื่อ สายัณห์ สุขจันทร์ ชี้แจงความเป็นจริงจากกรณีที่กลุ่มอปพส. เกณฑ์คนไปป่วนงานพิธีเปิดมัสยิดมุกดาหาร โดยทางกลุ่มยื่นหนังสือเรียกร้องให้จุฬาราชมนตรีจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่มีทั้งหมด 9 ข้อด้วยกัน



ที่มาของคลิปวีดีโอ:
ซักค้าน ข้อหา 9 ข้อของ อปพส ต่อมุสลิมไทย:
https://www.youtube.com/watch…

ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
🎥 กลุ่มอปพส. เกณฑ์พวกต่อต้านอิสลามป่วนพิธีงานเปิดมัสยิดมุกดาหาร 1/2
https://www.facebook.com/muslim.aof/posts/2179723948988648
🎥กลุ่มอปพส. เกณฑ์คนป่วนงานพิธีเปิดมัสยิดมุกดาหาร 2/2
https://www.facebook.com/muslim.aof/posts/2179884348972608

Monday, December 9, 2019

กลุ่มอปพส. เกณฑ์คนป่วนงานพิธีเปิดมัสยิดมุกดาหาร 2/2



กลุ่มอปพส.ที่นำโดยนายอัยย์ เพชรทอง เลขาธิการกลุ่ม ได้มาชุมนุมประท้วงถือป้ายผ้า "ชาวมุกดาหาร ขอตรวจสอบความถูกต้อง การก่อสร้างมัสยิด, ชาวมุกดาหาร ขออยู่อย่างสงบเราไม่ต้องการมัสยิด, ชาวชุมชนศรีพัฒนาไม่เอามัสยิด, ชาวมุกดาหารไม่เอามัสยิด" และมีการยื่นหนังสือเรียกร้อง 9 ข้อต่อจุฬาราชมนตรี ขณะที่จุฬาฯ มาเป็นประธานเปิดงานมัสยิดมุกดาหาร


หนึ่งในแกนนำประท้วงกลุ่มกล่าวอย่างแข็งกร้าวกับตัวแทนจุฬาฯ ที่มารับหนังสือร้องเรียนว่า "...การดำเนินการวิถีมุสลิม แต่ประเทศไทยนี้ ไม่ใช่ใช้กฏหมายอิสลามปกครอง ดังนั้นผมเรียนนะครับว่ากฏหมายอิสลามมิได้ใช้ปกครองประเทศไทย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเข้าใจตามนั้น"


อ.สุธรรม บุญมาเลิศ เลขาธิการสำนักจุฬาฯ กล่าวกับแกนนำประท้วงกลุ่มอปพส.ว่า ทางจุฬาราชมนตรีจะไปปรึกษาหารือดูข้อต่างๆ ที่ทางคุณต้องการ ความน่าจะเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน และเราจะได้แจ้ง อาจจะผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ได้รับทราบ"


ส่วนทางด้านนายอัยย์ เพชรทอง กล่าวเสริมว่า "ผมในฐานะเลขาธิการอปพส. ขอยืนยันว่าไม่เคยต่อต้านศาสนาอิสลาม เพราะผมมีเพื่อนอิสลามที่ดีเยอะแยะมากมาย...."


แต่คำพูดของนายอัยย์ ย้อนแย้งกับการกระทำของตัวเองเป็นอย่างมาก ปากบอกว่าไม่เคยต่อต้านอิสลาม แต่เกณฑ์คนมาถือป้ายไม่เอามัสยิด ตัวนายอัยย์เองก็ได้สร้างเพจปลุกระดมคนพุทธด้วยการสร้างเพจเสนอข้อมูลข่าวปลอม ปลุกปั่นให้ชาวไทยพุทธเกลียดชังชาวไทยมุสลิมอย่างต่อเนื่อง



ที่มาของคลิป: สำนักข่าวเฟสบ
https://www.facebook.com/watch/?v=897561983978731
.
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้:
🎥 กลุ่มอปพส. เกณฑ์พวกต่อต้านอิสลามป่วนพิธีงานเปิดมัสยิดมุกดาหาร 1/2
https://www.facebook.com/muslim.aof/posts/2179723948988648

กลุ่มอปพส.นำพวกป่วนงานพิธีเปิดมัสยิดมุกดาหาร 1/2



กลุ่มอปพส. ที่อ้างว่าเป็นกลุ่มที่ออกมาปกป้องศาสนาพุทธ ระดมพรรคพวกจำนวน 20 คน เข้ามาป่วนงานพิธีเปิดมัสยิดมุกดาหาร ซึ่งมีจุฬาฯ และคณะร่วมอยู่ในงาน และยื่นหนังสือให้ตัวแทนจุฬาฯ โดยทางกลุ่มมีข้อเสนอที่บิดเบือนความเป็นจริงอยู่ 9 ข้อเช่นขอให้ทางสำนักจุฬาฯ ช่วยปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย BRN RKK และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงๆ ต่าง ให้หยุดการกระทำที่เหี้ยมโหดทุกกรณ๊ในทันที

อ.สุธรรม บุญมาเลิศ เลขาธิการสำนักจุฬาฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไวท์ชาแนลว่า จากการถามคนในพื้นที่ พวกที่มาประท้วงไม่ใช่คนมุกดาหาร มี ส.ส.ไปพูด ส.ส.มุสลิมน่าจะทำหน้าที่ออกมาปกป้อง เสนอรายละเอียดที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง



อ.สุธรรม ยังได้มีการเน้นย้ำว่า มัสยิดมุกดาหารสร้างจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาชาวมุสลิม และทางมัสยิดเองไม่เคยได้รับงบประมาณใดๆ เลยจากทางการ


ที่มาของคลิป: สำนักข่าวไวท์ชาแนล
https://www.facebook.com/WhiteNewstv/videos/609527406521844/?v=609527406521844


กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...