Sunday, May 19, 2019

ม็อบจลาจลพุทธสุดโต่งชาวสิงหลใช้มีดดาบรุมฟันมุสลิมตายคาร้านในเดือนเราะมาฎอน




ม็อบจลาจลที่เป็นชาวพุทธสุดโต่งชาวสิงหลบุกโจมตีร้านค้าช่างร้านรุมฟันนายมูฮัมหมัด อามิรฺ เซลลี่ วัย 42 ปี เจ้าของร้านช่างจนเสียชีวิตคาร้าน เมื่อวันจันทร์ที่ 13 พ.ค. 2019 มุสลิมอีกคนที่เสียชีวิต แต่สื่อกระแสหลักทั่วไปไม่ได้รายงานข่าวก็คือคือนายไฟซ้อล ฮามิด ภายใน 48 ช.ม.นับตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. 2019 ฝูงม็อบหลายพันคนบุกโจมตี จุดไฟเผา ปล้นสะดม และทำลายมัสยิด 9 แห่ง ธุรกิจร้านค้ามุสลิมหลายร้อยแห่ง และ 30 หมู่บ้าน ในทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ห่างจากเมืองหลวงโคลัมโบของประเทศศรีลังกาไปประมาณ 100 กม. เหตุม็อบจลาจลเริ่มจาก 2 เหตุการณ์ในวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. 2019 – 1. ชายมุสลิมชื่อนายอับดุลฮามีด มูฮัมหมัด วัย 38 ปี เป็นพนักงานขายของที่อาศัยอยู่ในซิลอว์ทางตอนเหนือของกรุงโคลัมโบ ซึ่งมีชาวคริสเตียนอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ได้โพสต์ทางเฟสบุ๊กส์มีข้อความว่า “อย่าหัวเราะให้มากนัก พรุ่งนี้คุณอาจจะร้องไห้ก็ได้” ประกอบกับมีบาทหลวงคนหนึ่งได้ส่งข้อความไปยังมือถือของชาวคริสต์ว่า จะมีพวกมุสลิมสุดโต่งมาโจมตีโบสถ์อีก ทำให้ชาวคริสต์ตีความไปเองว่า มุสลิมกำลังข่มขู่ที่จะทำร้ายชาวคริสต์ ภายในวันเดียวกัน มีกลุ่มม็อบชาวคริสต์รุมทำร้ายชายมุสลิมคนหนึ่ง และฝูงม็อบเริ่มทำลาย ขว้างปาก้อนหินใส่มัสยิด และร้านค้าของชาวมุสลิม 2. กลุ่มพุทธสุดโต่งซึ่งรวมพระหลายรูปประมาณ 150 – 200 คน ถือมีดดาบและกระบอง บุกเข้าไปในมัสยิดอับรา ในเมือง Kiniyama ด้วยการสั่งให้คนในมัสยิดเปิดมัสยิดให้พวกเขาเข้าตรวจค้นหาอาวุธ โดยอ้างว่ามุสลิมซ่อนอาวุธเอาไว้ในมัสยิด หลังจากที่ทหารเข้าตรวจสอบแม่น้ำข้างมัสยิด หลังจากมุสลิมที่อยู่ในมัสยิดบอกให้พวกเขากลับไป ด้วยการโทรเรียกตำรวจ หลังจากนั้นม็อบฝูงใหญ่จำนวน 1,300 คนที่เป็นพุทธสุดโต่งกลับมาที่มัสยิดอีกครั้ง มุสลิมที่อยู่ในมัสยิดบอกให้ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้า แต่ตำรวจกลับไม่ทำอะไรและอ้างว่า คนพวกนี้ต้องการค้นหาอาวุธในมัสยิด พวกพุทธสุดโต่งจึงเริ่มเปิดฉากทำลายทุกๆ อย่างที่อยู่ในมัสยิดไม่ว่าจะเป็นกระจก ประตู พัดลม ปาและเหยียบคัมภีร์กุรอาน ปัสสาวะใส่บ่อน้ำที่มุสลิมสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่อาบน้ำละหมาด แม้กระทั่ง จะมีการเคอร์ฟิวส์ตั้งแต่วันจันทร์-วันอังคาร พวกม็อบพุทธสุดโต่งยังคงตะเวนไปตามหมู่บ้านจุดไฟเผา ทำลายมัสยิด ธุรกิจ บ้านเรือนของมุสลิมอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย มีรายงานจากคนในพื้นที่และสื่อท้องถิ่นว่า ตำรวจและทหารบางส่วนมีร่วมมือกับฝูงม็อบด้วยเช่นกัน และในเวลาเดียวกัน รัฐบาลสั่งให้หน่วยงานโทรคมนาคม ให้บล็อกเฟซบุ๊ก วอทส์แอป ยูทูบและอินสตาแกรม เพื่อป้องกันการแพร่เนื้อหาปลุกปั่นความรุนแรง ตำรวจจับกุมตัวนายอับดุลฮามีด มูฮัมหมัด วัย 38 ปีที่โพสต์เฟสบุ๊กส์ และจับกุมพุทธสุดโต่งที่ร่วมในม็อบจลาจลได้มากกว่า 70 คนรวมถึงผู้นำของกลุ่มชาวพุทธสุดโต่ง 3 คน นายAmith Weerasinghe นายDan Priyasad และ นาย Namal Kumara ซึ่งเป็นหัวหอกของพวกพุทธสุดโต่งในการนำฝูงม็อบทำลาย เผามัสยิด บ้านเรือน ร้านค้า ของมุสลิมในเมือง Kandy ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว เมื่อเดือนมี.ค. ปีที่แล้ว นาย Navin Dissanayake รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูก แถลงการณ์ว่า “พวกฝูงม็อบเป็นพวกโจรที่มีผู้อยู่เบื้องหลังจัดตั้งขึ้นมา โดยมีการนำฝูงม็อบที่อาศัยนอกพื้นเข้ามาก่อจลาจลในพื้นที่เหล่านี้ เรามีหลักฐานยืนยันทุกอย่าง และเราจะจัดการพวกนี้ให้ถึงที่สุด” เหตุจลาจลใหญ่ที่พุ่งเป้าไปยังมุสลิมในครั้งนี้ เกิดขึ้น 3 อาทิตย์ หลังจากสมาชิกของกลุ่มไอสิสโจมตีโบสถ์ 3 แห่ง และโรงแรมหรูอีก 3 แห่งในวันอีสเตอร์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 258 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 500 มุสลิมตกเป็นเป้าโจมตีจากกลุ่มพุทธสุดโต่งมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี 1915 (104 ปีมาแล้ว) และเมื่อปีที่แล้ว กลุ่มชาวพุทธบางกลุ่มกล่าวหาชาวมุสลิมว่า กำลังบีบบังคับชาวศรีลังกาที่นับถือพุทธ ให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ทำให้กลุ่มพุทธสุดโต่งบุกเผามัสยิด บ้านเรือน ร้านค้ามุสลิมจำนวนมากที่เมือง Kandy ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของต่างชาติ ทำให้รัฐบาลสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. 61 ที่มา – คลิปวีดีโอ: DOAM https://www.wsj.com/articles/buddhist... https://www.aljazeera.com/news/asia-p... https://www.independent.co.uk/news/wo... https://www.bbc.com/news/world-asia-4... https://www.washingtonpost.com/opinio... https://www.thairath.co.th/news/forei...

กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...