20 ต.ค. 2559
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ได้ออกแถลงการณ์เรื่องยุติการตรวจค้น
จับกุม คุมขังนักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยพลการ
นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้มีการตรวจค้น จับกุม
คุมขังนักศึกษาและเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเขตกรุงเทพฯ
อย่างต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 10-15 ตุลาคม 2559
เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังตรวจค้นจับกุมนักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พักอาศัยย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหงรวม
44 คน และนำตัวพวกเขาไปควบคุมในสถานที่ต่างๆ
ก่อนจะปล่อยตัวออกมาเป็นส่วนใหญ่โดยไม่มีการแจ้งข้อหา
มีห้าคนถูกควบคุมตัวที่เรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11
และถูกส่งตัวต่อไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี
หลังครบกำหนดเจ็ดวัน และหนึ่งคนยังถูกควบคุมตัวที่เรือนจำกลางคลองเปรม
หลังจากนั้นยังคงมีการตรวจค้นจับกุมนักศึกษาและเยาวชนเหล่านี้เป็นระยะ
โดยล่าสุดในวันที่ 19 ตุลาคม
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นและควบคุมตัวนักศึกษาและเยาวชนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ย่านรามคำแหงจำนวนสองคนในช่วงบ่ายและห้าคนในช่วงค่ำ
รวมทั้งมีการตรวจตราชมรมนิสิตนักศึกษามุสลิมในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ
ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างขึ้นและส่งผลให้นักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากหวาดกลัว
ไม่กล้าพักอาศัยในที่เดิมอีกต่อไป
ไม่นับรวมการตรวจค้นข่มขู่คุกคามพวกเขาในพื้นที่ซึ่งเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่อ้างว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันการก่อวินาศกรรมในโอกาสครบรอบการสลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบในวันที่
25 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
ทว่าจากการที่มีการปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่โดยไม่มีการตั้งข้อหาชี้ให้เห็นว่าการจับกุมเป็นในลักษณะเหวี่ยงแหและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเป็นไปโดยพลการเพราะไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือหมายจับแม้จะอาศัยอำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) ก็ตาม
ขณะเดียวกันก็ไม่มีการแจ้งให้ญาติและบุคคลที่เกี่ยวข้องรับทราบถึงสถานที่ควบคุมตัว
และญาติที่เดินทางมาจากพื้นที่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมในช่วงแรก
รวมทั้งมีข้อให้ชวนสงสัยว่ามีการบังคับขู่เข็ญให้ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ
ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง นอกจากนี้
การส่งตัวเยาวชนเหล่านี้ไปควบคุมต่อที่เรือนจำค่ายอิงคยุทธบริหารโดยอ้างกฎอัยการศึกถือเป็นการอ้างอำนาจตามกฎหมายที่ผิดเพราะกรุงเทพฯ
ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกแต่อย่างใด
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองเห็นว่าการตรวจค้น จับกุม คุมขัง
นักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในกรุงเทพฯ
ด้วยข้ออ้างเรื่องความมั่นคงดังกล่าวเป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น
ถือเป็นการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกินขอบเขต
ไม่เป็นไปตามหลักการและวิธีการตามกฎหมาย
และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและสิทธิพลเมืองอย่างรุนแรง
นอกจากนี้
ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการอาศัยช่วงจังหวะเวลาที่สังคมอยู่ในภาวะเศร้าโศกเสียใจในการใช้อำนาจตามอำเภอใจของเจ้าหน้าที่
เป็นการอาศัยช่วงจังหวะเวลาที่สังคมอยู่ในความวิตกกังวลในการโหมไฟความหวาดกลัวที่มีต่อสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น
และเป็นการอาศัยช่วงจังหวะที่ความโกรธแค้นเกลียดชังผู้เห็นต่างกำลังถูกปลุกปั่นในสังคมในการขยายอคติต่อชาวมลายูมุสลิมที่ไหลเวียนอยู่ให้ฝังแน่นยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็นอันตรายต่อหลักการสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยและการเคารพในความแตกต่างหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเชื่อของสมาชิกในสังคม
เพื่อปกป้องสิทธิของนักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ในฐานะพลเมืองไทยและป้องกันมิให้อคติทางชาติพันธุ์และศาสนาขยายวงกว้างและเป็นเครื่องมือของการใช้อำนาจโดยพลการ
ตามอำเภอใจ และไม่ต้องรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองมีข้อเรียกร้องดังนี้
1.
ยุติการตรวจค้น จับกุม คุมขังนักศึกษาและเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยพลการ
และให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
รวมทั้งให้ใช้กระบวนการยุติธรรมปกติในการดำเนินคดีกับพวกเขาหากมีมูล
2. ยุติการอาศัยช่วงเวลาที่สังคมไทยกำลังอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจ
อ่อนไหว และเปราะบาง ในการละเมิดหลักการและวิธีการตามกฎหมาย
เพราะนอกจากขัดหลักนิติรัฐและสิทธิพลเมืองแล้ว
ปฏิบัติการดังกล่าวยังสร้างรอยมลทินให้กับยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่านและไม่เป็นผลดีต่อการปกครองประเทศในระยะยาว
3.
รัฐและสังคมไทยควรเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจและเคารพในความแตกต่างหลากหลายทางชาติพันธุ์และศาสนา
ตลอดจนการคำนึงภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
อันจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาความไม่สงบด้วยกระบวนการสันติวิธีและการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง 20 ตุลาคม 2559
ที่มาและภาพ - คมชัดลึก
แถลงการณ์จี้รัฐเลิกจับกุม นศ.ใต้ โดยพลการ
http://www.komchadluek.net/news/politic/246549
กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน
แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...
-
โดย มุสลิมะฮฺ ออสเตรเลีย ยาสมิน โพราต ( Yasmin Porat) หญิงอิสราเอลซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากการปะทะนองเลือดระหว่างกลุ่มฮามาสและกองกำลังอิสรา...
-
⚠️ ด่วน! กองกำลังยึดครองอิสราเอลหรือไอดีเอฟ ตั้งใจทิ้งระเบิดถล่มบริเวณสนามหญ้าของรพ.อัลอะฮฺลีอาหรับ ในกาซ่า ที่ชาวปาเลสไตน์ใช้รพ.เป็นที่ลี้ภ...
-
เมื่อคืนวันพุธที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังอิสราเอลบุกโจมตีชาวปาเลสไตน์ที่เสร็จจากการไปละหมาดตะรอเวียะฮฺที่มัสยิดอัลอักซอมา ด้วยการปาระเ...