✈ “ประธานาธิบดี Erdoğan ยอมเสี่ยงชีวิตขณะสั่งนักบินนำเครื่องบิน
ลงจอดในอิสตันบูล” เจ้าหน้าที่ของตุรกีเปิดเผยรายละเอียดคืนที่มี
ทหารบางส่วนพยายามก่อรัฐประหาร
คืนวันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม 2016 เกิดเหตุการณ์ที่มีทหารตุรกีบางส่วน
พยายามก่อรัฐประหาร ระหว่างที่ประธานาธิบดีรอยั๊บ ฏอยยิบ อัร
ดูฆอน ไปพักร้อนกับครอบครัวที่เมืองชายทะเลที่มาร์มาริช
Marmaris
ประธานาธิบดีอัรดูฆอนและครอบครัวต้องรีบออกจากโรงแรมที่พัก
หลังจากรับทราบเรื่องความพยายามก่อรัฐประหาร โดยสำนักข่าว
อัลญะซีเราะฮฺได้รับสำเนาการสนทนาของกลุ่มก่อรัฐประหารผ่าน
วอสท์แอพ ยืนยันว่าทหารที่ก่อรัฐประหารได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ
พร้อมทหาร 40 นายที่เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษมายังโรงแรม เพื่อที่
จะสังหารหรือจับตัวประธานาธิบดีอัรดูฆอน
ประธานาธิบดีอัรดูฆอนได้ออกจากโรงแรมครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่
เฮลิคอปเตอร์ของกลุ่มก่อรัฐประหารมาถึงที่โรงแรม ได้มีการปะทะ
ระหว่างหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ดูแลอารักขาประธานาธิบดีทหาร
เหล่านั้น โดยจำนวนหนึ่งของทหารได้ทำการหลบหนีไปบนภูเขา
หลังจากเกิดเหตุหนึ่งในเฮลิคอปเตอร์ถูกยิงตก
อ้างจากรายงานของสำนักข่าว DailySabah ว่าทหารจากกลุ่มก่อ
รัฐประหารประมาณ 25 นายได้ใช้เชือกโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ลงมา
ที่โรงแรมที่ประธานาธิบดีอัรดูฆอนและครอบครัวใช้เป็นที่พักร้อนใน
เมืองมาร์มาริซ เพื่อพยายามที่จะจับตัวท่าน แต่ท่านออกจากโรงแรม
ไปแล้ว DailySabah อ้างจากสำนักข่าว CNN เติร์ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง
ของสำนักข่าวที่กลุ่มก่อรัฐประหารบุกเข้ายึดสถานีในคืนที่พยายามก่อ
รัฐประหารตัวของประธานาธิบดีอัรดูฆอนเองยังได้เปิดเผยว่า กลุ่ม
ทหารที่ก่อรัฐประหารได้พยายามสังหารท่าน “หลังจากที่ผมเดิน
ทางออกจากเมืองมาร์มาริซ ผมได้รับรายงานว่าพวกทหารกลุ่มนี้ทิ้ง
ระเบิดถล่มสถานที่ที่ผมไปพักผ่อน ผมคาดว่าพวกเขาคิดว่าผมยังคง
อยู่ที่นั้นในขณะทิ่มีการทิ้งระเบิด”
ทางรัฐบาลได้รีบส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวประธานาธิบดีอัรดูฆอนและ
ครอบครัวที่เมืองมาร์มาริซ และไปลงจอดที่เมืองดารามัน Dalaman
และจากที่นั้นได้ขึ้นเครื่องบินบิสิเน็ทเจ็ทไปลงที่สนามบินใน
อิสตันบูล ระหว่างนั้น “มีเครื่องบินเอฟ 16 อย่างน้อย 2 ลำ บินก่อกวน
เครื่องบินเจ็ทของประธานาธิบดี เครื่องบินของทหารที่ก่อรัฐประหาร
เหล่านี้ได้ล็อคเรดาห์ไปที่เครื่องบินของประธานาธิบดี และเครื่องบิน
เอ็ฟ 16 อีกสองลำที่ทำหน้าที่คุ้มครองเครื่องบินของประธานาธิบดีอัร
ดูฆอนอยู่” อดีตเจ้าหน้าที่ทหารที่ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีกล่าวกับ
สำนักข่าวรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งได้ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์เช่นเดียวกัน
ว่า เครื่องบินเจ็ทของประธานาธิบดีอัรดูฆอนถูกรบกวนแต่ก็ลงจอดที่
สนามบินอิสตันบูลได้อย่างปลอดภัย
นาย Bekir Bozdağ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ได้เล่ารายละเอียด
ของนาทีวิกฤตที่กลุ่มทหารพยายามโค่นล้มประธานาธิบดีอัรดูฆอน
โดยกล่าวว่า ตัวของประธานาธิบดีเองยอมเสี่ยงสีชีวิตหลังจากสั่งให้
นักบินนำเครื่องลงจอดที่สนามบินอิสตันบูลอย่างลับๆ
นาย Bozdağ ได้ให้สัมภาษณ์ทางทีวี โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีอัร
ดูฆอนตัดสินใจสั่งเครื่องบินลงจอดที่สนามบินอาร์ตาเตริก์ในอิสตันบูล
เพื่อพบปะกับประชาชนจำนวนนับหมื่นๆ ที่รวมตัวกันอยู่ที่หน้าสนาบิน
อาตาร์เตริก์ หลังจากที่ประชาชนร่วมใจกันเดินออกมาบนถนนต่อต้าน
รัฐประหาร และแม้กระทั่งตอนนั้นทหารกลุ่มกบฏเข้าควบคุมสนามบิน
อาตาเตริก์เอาไว้ประชาชนก็เดินทางกันมาที่สนามบินอย่างหลั่งไหล
“ประธานาธิบดีอัรดูฆอนได้ถามนักบินว่า เครื่องบินจะสามารถลงจอด
โดยแค่เปิดไฟเครื่องบินไว้อย่างเดียวได้หรือไม่ โดยปราศจากการขอ
อนุญาตนำเครื่องลงจอดต่อเจ้าหน้าที่หอบังคับการบิน” นาย
Bozdağ กล่าว
นาย Bozdağ เล่าต่อไปว่า “นักบินตอบประธานาธิบดีอัรดูฆอนว่า
การนำเครื่องบินลงจอดนั้นสามารถกระทำได้ แต่ขอเตือนท่านว่า
เป็นการเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก แต่แล้วประธานาธิบดียอมเสี่ยง
ชีวิตสั่งให้นักบินนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินอาร์ตาร์เติร์ก ใน
อิสตันบูล ในขณะที่ประชาชนชาวตุรกีล้อมสนามบินเอาไว้ เพื่อต่อ
ต้านทหารที่ก่อรัฐประหารที่สนามบินอยู่”
เว็ปไซต์ Flight tracker ซึ่งเป็นเว็ปไซต์ที่แสดงให้เห็นถึงจราจรทาง
อากาศแบบ real time ได้รายงานว่าเครื่องบินประเภท Gulfstream
IV aircraft ซึ่งเป็นเครื่องบินบิสิเน็ทเจ็ทที่รัฐบาลตุรกีใช้ ได้บินขึ้นจาก
สนามบินดารามัน Dalaman airport ประมาณเวลา 22.40 GMT ของ
คืนวันศุกร์
จากนั้นเครื่องบินของประธานาธิบดีอันดูฆอนได้บินวนอยู่ทางตอนใต้ของอิสตันบูลอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เป็นพยานในการได้ยินเสียงปืนที่ยิงออกมาจากบริเวณสนามบินตลอดเวลา ก่อนที่เครื่องบินประธานาธิบดีตัดสินใจลงจอด
กลุ่มทหารที่ก่อรัฐประหารยังได้พยายามปลิดชีวิตนายกรัฐมนตรี นาย
บินาลี ยิลดิริม (Binali Yildirim) ในคืนก่อรัฐประหารด้วยเช่นกัน
สถานีโทรทัศน์ข่าวของ NTV ของตุรกีได้รายงานข่าวคำแถลงการณ์
ของนาย Efkan Ala รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
“กลุ่มทหารที่ก่อรัฐประหารพุ่งเป้าโจมตีไปที่รถยนต์ของนายก
รัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม ด้วยเช่นกัน” นาย Ala กล่าว
อ้างจากหลายแหล่งข่าว รถยนต์ของนายยิลดิริมถูกรถของทหารที่ก่อ
รัฐประหารยิงใส่ ขณะที่รถวิ่งผ่านพรมแดนของจังหวัดทางภาคเหนือ
ของ Kastamonu เดินทางมาที่เมืองอังการาด้วยความเร่งด่วน เพื่อ
เข้าควบคุมสถานการณ์ความพยายามก่อรัฐประหารของทหารกลุ่ม
หนึ่ง
นายกรัฐมนตรียิลดิริมเลือกที่จะเดินทางโดยทางบก เนื่องจากมีความ
เสี่ยงสูงกว่ามากเมื่อเทียบกับการเลือกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ณ
ตอนนั้นทหารใช้อาวุธ รถถัง และเครื่องบินรบ ปะทะกับประชาชนตุรกี
ที่ออกมาต่อต้านในกรุงอังการา รถของนายกยิลดิริมต้องเปลี่ยนเส้น
ทางซึ่งเป็นเส้นทางผ่าน Kastamonu รอดชีวิตมาได้จากการถูกลอบ
สังหารจากกลุ่มทหารที่ก่อรัฐประหาร โดยผู้ว่าการของ Kastamonu
นำตัวนายกรัฐมนตรีไปหลบซ่อนตัวไว้ที่บ้าน และท่านใช้บ้านหลังนั้น
เป็นศูนย์บัญชาการเฝ้าสังเกตุการณ์การณ์เหตุรัฐประหารทั้งคืน นายก
ยิลดิริมได้พักอยู่ที่บ้านผู้ว่าจนกระทั่งสถานการณ์ความปลอดภัยใน
อังการากลับสู่ภาวะปกติในวันต่อมา (16/07/16)