Sunday, January 31, 2021

เยาวชนชายชาวปาเลสไตน์ถูกทหารอิสราเอลยิง ใช้ด้ามปืนทุบที่หัวจนเสียชีวิต

วันอังคารที่ 26 มกราคม 2021 กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ยืนยันการเสียชีวิตของอัตตุลเลาะฮ์ มูฮัมหมัด เรย์ยาน วัย 17 ปี  ที่อาศัยในเมืองกอราวาต บานียะฮัสซัน เสียชีวิตจากการถูกทหารอิสราเอลรุมทำร้าย ยิง และใช้ด้ามปืนทุบไปที่หัวหลายครั้งใกล้ Salfit ส่วนกลางของเวสแบงก์ โดยทหารอ้างว่าเขาพยายามแทงทหาร 



อ้างจากกองทัพอิสราเอลว่า อัตตุลเลาะฮ์เดินมาถึงนิ-คมแอเรียลจังก์ชั่น จากนั้นเขาพยายามแทงผู้บังคับบัญชาของกลุ่มทหารและทหารหญิงใกล้อาริล โคโลนี๊ย์ (ซึ่งเป็นอาณานิคมยิวที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างผิดกฏหมายระหว่างประเทศ) ก่อนที่ทหารนายหนึ่งและอัตตุลเลาะฮ์จะมีการ “ต่อสู้ในช่วงสั้นๆ หลังจากที่พยายามแทงทหารหญิง 2-3 ครั้ง แล้วผู้บัญชาการยิงเขาเสียชีวิต”


แต่จากการให้การของผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า อัตตุลเลาะฮ์ไม่ได้แทงทหาร อย่างที่กองทัพอิสราเอลกล่าวอ้าง

“ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. เด็กเยาวชนชายชาวปาเลสไตน์กำลังข้ามถนน ที่ทหารอิสราเอลปิดถนนอยู่ กลุ่มทหารอิสราเอลเริ่มทำร้ายและยิงเด็ก เด็กฮึดสู้กลับกลุ่มทหาร หลังจากถูกยิง กลุ่มทหารรุมทำร้ายต่อจนเด็กล้มลง จากนั้นทหารใช้ด้ามปืนตีไปที่หัวเด็ก เป็นไปได้มากเลยว่านี่เป็นสาเหตุให้เด็กตาย เพราะพวกทหารใช้ด้ามปืนตีหัวเด็กไปหลายครั้งมาก ทำให้แผลที่หัวเปิดกว้าง พวกทหารยิงและทำให้เด็กบาดเจ็บก่อน จากนั้นรุมทุบตี จนเด็กร่วงลงพื้น และยังทำร้ายเขาต่อ และใช้ด้ามปืนทุบไปที่หัวเด็กอีก และนี่ทำให้เด็กตาย”


นางมาฮีร่า ซึ่งเป็นแม่ของอัตตุลเลาะฮ์กล่าวว่า ลูกชายของนางห่วงแต่เรื่องเรียนจบเพียงอย่างเดียว “วันพฤหัสบดีที่แล้ว ลูกฉันวางแผนนัดเจอเพื่อนๆ หลังจากสอบเสร็จประจำภาคการเรียนสุดท้าย” แม่เล่าทั้งน้ำตา 


อัตตุลเลาะฮ์ตื่นมาตอนวันอังคาร และก็ไปสอบ พอกลับบ้านมา ลูกได้กินข้าว แล้วเดินไปนับบรุส เพื่อไปช่วยพ่อทำงาน เหมือนที่ผ่านมาที่ลูกจะไปช่วยพ่อตอนเวลาว่าง แต่เขาก็ไปไม่ถึงที่ทำงานพ่อ


 “อัตตุลเลาะฮ์ออกจากบ้านไปและไม่ได้กลับมาอีกเลย” นางมะฮีร่า กล่าว


หลังจากฆ่าเด็กตายแล้ว ทหารยังบุกโจมตีเมืองกอราวาต บานียะฮัสซัน บ้านเกิดของมูฮัมหมัด ทำให้ชาวบ้านโมโหพากัน ส่วนทหารยิงแก๊สระเบิด, Concussion ระเบิด และยิงกระสุนเหล็กหุ้มยาง ใส่ผู้ประท้วง ทำให้ชาวบ้านหลายคนได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมแก๊สน้ำตา


จากนั้นทหารยังบุกและรื้อค้นบ้านของครอบครัวเยาวนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกฆ่า และนำสมาชิกในครอบครัวของมูฮัมหมัดไปสอบปากคำ


อัตตุลเลาะฮ์เป็นเด็กคนแรกที่กองกำลังอิสราเอลสังหารในปีนี้ (2021)  ปีที่แล้ว กองกำลังอิสราเอลสังหารเด็กชาวปาเลสไตน์ไป 9 คนในพื้นที่ยึดครองเวสแบงก์, เยรูซาเล็มตะวันออก และฉนวนกาซ่า ซึ่ง 6 ใน 9 คนเป็นเด็กที่ถูกกองกำลังอิสราเอลใช้กระสุนจริงสังหาร อ้างจากรายงานของหน่วยงานป้องกันเด็กนานาชาติ-ปาเลสไตน์ (DCIP)


ที่มา:


https://imemc.org/article/palestinian-teen-shot-dead-by-israeli-soldiers-near-salfit/

https://www.dci-palestine.org/israeli_forces_kill_17_year_old_palestinian_boy_allege_attempted_stabbing

https://www.aljazeera.com/news/2021/1/27/israeli-forces-shoot-dead-palestinian-teen-in-occupied-west-bank

Friday, January 15, 2021

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เขย่าเกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย







สงสารประชาชนชาวอินโดนีเซีย มากๆ เรื่องเครื่องบินตก ยังไม่คลี่คลายเลย วันนี้ต้องประสบภัยกับแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่อีกในตอน1.00 น. วัดได้ขนาด 6.2 อยู่ห่างชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสุลาเวสีไป 6 กม. เสียชีวิตแล้ว 34 คน บาดเจ็บมากกว่า 630 คน มากกว่า 15,000 คนกลายเป็นคนไร้บ้าน


🎬 ดูคลิป: 

https://twitter.com/muslimahau/status/1350093620842381316?s=21

Thursday, January 14, 2021

มีการฝังศพชิ้นส่วนร่างกายของเหยื่อผู้เสียชีวิตเครื่องบินตกรายแรกของเครื่องบินศรีวิจายาแอร์



วันนี้ (พฤหัสบดีที่ 14 ..) ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงร่วมงานฝังศพชิ้นส่วนร่างกายของเหยื่อเครื่องบินตก ในจาการ์ตาเป็นรายแรก นาย Okky Bisma วัย 29 ปี ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินศรีวิจายาแอร์ โดยรัฐบาลยืนยันว่าเป็นนาย Okky หลังจากลายนิ้วมือจากชิ้นส่วนมือที่ทีมดำน้ำกอบกู้ขึ้นมาได้ ตรงกับข้อมูลจากฐานข้อมูลประจำตัวของรัฐบาลอินโดนีเซีย 



เมื่อวานนี้เอง เจ้าหน้าที่ได้พยายามค้นหากล่องดำเครื่องที่ 2 หลังจากที่สามารถเก็บกู้กล่องดำเครื่องแรกได้แล้ว  ซึ่งเป็นเครื่องบินบันทึกข้อมูลการบินได้เมื่อวันที่ 12 .ของเครื่องบินศรีวิจายาแอร์ ที่ตกในทะเลชวา หลังจากบินออกจากจาการ์ตาได้เพียง 4 นาที โดยคาดว่าทั้งผู้โดยสาร 50 คนในจำนวนนี้มีเด็ก 7 คน ทารก 3 คนและลูกเรืออีก 12 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด


ที่มา

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/sriwijaya-plane-crash-indonesia-bury-victim-flight-attendant-13959220?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter


สำนักข่าว Anadolu Agency

Tuesday, January 12, 2021

พบกล่องดำของสายการบินศรีวิจายาแอร์แล้ว





ดูคลิป - 

https://twitter.com/muslimahau/status/1349015492795768836?s=21


เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียสามารถเก็บกู้กล่องดำกล่องแรกของเครื่องบินสายการบินศรีวิจายาแอร์ ที่ตกในทะเลชวาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้แล้ว ซึ่งเครื่องบันทึกเสียงสนทนาบนเครื่องบินกำลังถูกส่งไปยังท่าเรือจาการ์ตา  Fajar Tri Rohadi โฆษกของกองทัพเรืออินโดนีเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์


ณ ตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้เครื่องบันทึกข้อมูลการบินได้แล้ว ทางคณะกรรมการการปลอดภัยทางคมนาคม อินโดนีเซีย KNKT (National Transportation Safety Committee) กล่าวว่าจะสามารถอ่านข้อมูลได้ภายใน 2-5 วัน และปริศนาสาเหตุเครื่องบินตกกำลังจะคลี่คลาย


ในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนร่างกายเพิ่มเติม รวมทั้งของใช้ส่วนตัวของผู้โดยสารสายการบินเช่นกระเป๋าสตางค์ที่มีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ในนั้น


เครื่องบินศรีวิจายาแอร์ไม่เคยประสบกับอุบัติเหตุเครื่องบินตกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา


นอกจากนี้สำนักข่าวบีบีซีได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเครื่องบินของสายการบินศรีวิจายาแอร์ที่ตกลงในทะเลชวาเมื่อวันที่ 9 มกราคม เพิ่งผ่านการตรวจสภาพว่ามีความพร้อมที่จะบินเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา


โดยเที่ยวบิน SJ182 ได้หยุดบินไปช่วงเดือนมีนาคม – ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อนจะกลับมาทำการบินอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม หลังจากได้ทดสอบการบินโดยไม่มีผู้โดยสารแล้วเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม


จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737 ลำนี้ยังคงทำงานได้ และยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนจะตกลงทะเล ส่วนสาเหตุของเครื่องบินตกยังคงเป็นปริศนา แต่ไม่ได้เกิดการระเบิดกลางอากาศอย่างแน่นอน เพราะมีการค้นพบใบพัดเครื่องบินและจานของใบพัดที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์


ที่มา:

https://www.mirror.co.uk/news/world-news/breaking-indonesia-plane-crash-first-23303081

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2525840



Sunday, January 10, 2021

คนในครอบครัวและเพื่อนของผู้โดยสารสายการบินศรีวิจายาแอร์ เฝ้าติดตามรอฟังข่าวความคืบหน้า















คนในครอบครัวและเพื่อนของเครื่องบินศรีจายาแอร์เที่ยวบิน SJ 182 ที่ตกในทะเลชวา หลังจากเครื่องบินออกจากจาการ์ตาไปเพียงแค่ 4 นาที เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองปอนเตียนักในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าพวกเขายังคงมีความหวัง แม้จะพบตำแหน่งกล่องดำ 2 กล่องของเครื่องบินแล้วก็ตาม 


เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเผยว่า บนเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้อยู่บนเครื่อง 62 คน ผู้โดยสาร 50 คน มีเด็ก 7 คน และ ทารก 3 คน รวมถึงลูกเรือ 12 คน โดยทั้งหมดเป็นชาวอินโดนีเซีย


ยูดี้ กุรดานีย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เขามีสมาชิกในครอบครัว 5 คนอยู่บนเครื่องลำนี้ มีทั้งลุง ป้า ลูกพี่ลูกน้องและลูกสาวของเขาอายุ 4 ขวบ และยังมีหลานชายอายุ 8 ขวบที่เดินทางมาด้วย


วันอาทิตย์ ทางหน่วยกู้ภัยได้ถ่ายรูปภาพที่มีทั้งซากเครื่องบิน รวมทั้งเสื้อยืดเด็กสีชมพู ซึ่งกุรดานีย์เชื่อว่าเป็นของยุมน่าซึ่งเป็นหลานสาว “หลานไม่ได้ใส่ขึ้นเครื่อง แต่แม่เด็กแพ็กใส่ไปในกระเป๋าเดินทาง หลานใส่เสื้อตัวนี้บ่อย ทันทีที่เห็นเสื้อในโทรทัศน์ เรามั่นใจ 80% ว่าเป็นของเด็ก” นายกุรดานีย์กล่าว


ก่อนที่จะขึ้นเครื่องวินดานิยะห์ แม่ของยุมน่า ได้ถ่ายรูปบนเครื่องบินพร้อมลูกสาวและหลานชาย แล้วโพสต์ในอินสตาแกรม พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “ลาก่อนครอบครัวของฉันทุกคน เรากำลังจะกลับบ้าน” โพสต์นี้กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย และมีผู้คนจำนวนมากเข้ามาโพสต์แสดงความความเสียใจ


นายบาเบน ซุฟยาน วัย 59 ปี ซึ่งเป็นภรรยาถ่ายเซลฟีคู่กับสามี เดน ราซะนะห์ วัย 58 ปี “เขาส่งรูปคู่ไปให้ลูกๆ ก่อนเครื่องออก” เฮนดร้า ซึ่งเป็นหลานชายเล่ากับสำนักข่าวเอเอฟพี 


นายยามาน ไซ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า คนในครอบครัวของเขา 4 คน โดยสารมากับเครื่องบินลำนี้


“ผมมีคนในครอบครัว 4 คนอยู่บนเครื่อง - ภรรยาและลูก 3 คน ภรรยาผมเพิ่งส่งรูปลูกซึ่งยังเป็นทารกอยู่เลยมาให้ผมเมื่อเช้าวันเสาร์นี้เอง แล้วหัวใจของผมจะไม่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ไปได้ยังไง?”


ทางด้านหัวหน้าหน่วยกู้ภัยและช่วยเหลือทางทะเลอินโดนีเซีย เผยว่า เขาได้รวบรวมชิ้นส่วนร่างกายได้ถึง 5 ถุงขนาดใหญ่ และพบเศษซากเครื่องบิน สิ่งของ เสื้อผ้า บริเวณเครื่องบินตก


‘’เราดูข่าวในโทรทัศน์ ซึ่งทางการกำลังเตรียมกู้ 2 กล่องดำอยู่ ซึ่งเราก็หวังว่า พวกเขาจะรอดชีวิต เรายังคงมีความหวังต่อไป และเราอธิษฐานจากอัลลอฮ์ขอให้พวกเขายังคงมีชีวิตรอด แต่เราก็เตรียมพร้อม แม้กระทั่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น เราหวังว่าเราจะสามารถรับมือกับสิ่งที่กำลังจะมาถึงได้” นายกุรดานีย์กล่าวปิดท้าย


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2021/1/10/family-friends-of-indonesia-plane-crash-passengers-await-news?taid=5ffb2488224979000124e5bd&utm_campaign=trueAnthem%3A+Trending+Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=twitter


ข่าวที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้: 

.

เครื่องบินโดยสาร Sriwijaya Air ของอินโดนีเซียซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คน หายไป หลังบินขึ้นจากกรุงจาการ์ตา


https://www.facebook.com/1072860619570646/posts/1511299215726782/

Saturday, January 9, 2021

เครื่องบินโดยสาร Sriwijaya Air ของอินโดนีเซียซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คน หายไป หลังบินขึ้นจากกรุงจาการ์ตา







เกิดเหตุเครื่องบินของสายการบิน Sriwijaya Air เที่ยวบินเอสเจวาย 182 ของอินโดนีเซีย คาดว่าตกกลางทะเล หลังเพิ่งเดินทางออกจากสนามบินในกรุงจาการ์ตาวันนี้(9ม.ค.)ไปยังเมืองปอนตีอานัค ในจังหวัดกาลิมันตันตะวันตก


ทางด้านเว็บไซต์ Flightradar.24.com ระบุว่าเครื่องบินสูญเสียความสูงถึง 10,000 ฟุตในเวลาไม่ถึง 1 นาทีก่อนจะหายไป หลังจากขึ้นบินจากกรุงจาการ์ตาประมาณ 4 นาที


เครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร  56 คน ซึ่งรวมเด็กอยู่ด้วย 10 คน และนักบิน-ลูกเรืออีก 6 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม


ล่าสุดมีรายงานพบชิ้นส่วนที่คาดว่าอาจจะเป็นของเครื่องบิน ตกในทะเล ในบริเวณใกล้เคียงจุดที่หายไปแล้ว ซึ่งกำลังรอการยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนของเที่ยวบินดังกล่าว



ที่มา: 


https://english.alaraby.co.uk/english/news/2021/1/9/indonesia-budget-airline-jet-suspected-to-have-crashed-official

https://www.haveeru.com.mv/the-indonesian-plane-with-62-people-including-10-children-crashed-into-the-sea-just-minutes-after-takeoff-observer/

Tuesday, January 5, 2021

หญิงชาวโรฮิงญาบอกนางถูกรบ.บังกลาเทศบีบบังคับให้ย้ายไปอยู่ที่เกาะบาซันชาร์

 



รัฐบาลบังกลาเทศทำโฆษณาชวนเชื่อว่า ชาวโรฮิงญาทุกคนที่เดินทางย้ายไปอยู่ที่เกาะบาซันชาร์ ไปด้วยความสมัครใจ แต่จากการที่ทางกลุ่มสิทธิฯ สัมภาษณ์ชาวโรฮิงญาหลายคน ที่รัฐบาลเพิ่งส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 1,600 คน จากค่ายค็อกซ์บาซาร์ เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ต่างพูดเหมือนกันว่า พวกเขาถูกบีบบังคับให้ย้ายไป จากคลิปนี้ หญิงชาวโรฮิงญาที่ต้องอำพรางหน้าตาเอาไว้ บอกว่านางลงชื่อพร้อมเพื่อนบ้านสมัครใจย้ายไปอยู่ที่เกาะบาซันชาร์ แต่เมื่อมารู้ว่า ลูกของนางที่ป่วยจะไม่ได้รับการรักษาเมื่อย้ายไปที่นั่น นางจึงเปลี่ยนใจ แต่ทางรัฐบาลบังกลาเทศกลับไม่ฟังเสียงนาง โยนกระสอบมาให้ แล้วบอกให้เก็บข้าวของใส่กระสอบให้เสร็จ แล้วพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางตอน 8.00 น. ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์จากการแบ่งส่วนอาหารให้ เกาะบาซันชาร์เพิ่งโผล่พ้นน้ำมาเมื่อ 20 ปีก่อนนี้เอง นับเป็นพื้นที่ที่เสี่ยงได้รับอันตรายจากน้ำท่วม น้ำทะเลกัดเซาะ และพายุไซโคลนที่ถล่มบังกลาเทศอย่างหนักในทุกๆ ปีอยู่แล้ว ล่าสุด Shafiur Rahman นักสารคดีโรฮิงญาและเป็นนักสิทธิฯ จากอังกฤษโพสต์ในทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตคนแรกที่เกาะบาซันชาร์แล้ว พวกเขาต้องแบกศพไปฝังศพที่ทำเป็นกุโบร (สุสาน) โดยใช้เวลาเดินถึง 35 นาที

ชาวโรฮิงญาสามารถใช้ไฟฟ้าได้ตอน 18.00 น. – 24.00 น. เท่านั้น ส่วนตลาดที่สร้างขึ้นมาบนเกาะก็ไปไม่ได้ พวกเขาต้องได้รับอนุญาตจากตำรวจบังกลาเทศก่อน ทั้งนี้ตำรวจคอยเดินลาดตระเวนในพื้นที่ทั้งคืน เนื่องจากเกรงว่าชาวโรฮิงญาจะหลบหนี เครดิตคลิป - Twitter: Jamila Hanan Twitter: Shafiur Rahman

กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...