ด.ญ.ฟาติมะฮฺ อับดุลเราะฮฺมาน เป็นนักกีฬาสควอช (Squash) ทีมชาติหญิง ที่ท็อป 5 นักกีฬาหญิงรุ่นเยาวชนของสหรัฐฯ และเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ถูกอนุญาตให้สวมฮิญาบลงแข่งขันได้
ด.ญ.ฟาติมะฮฺ เดินทางพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมออกจากท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2019 เพื่อไปแข่งสควอชที่โทรอนโต้ แคนาดา และเป็นครั้งแรกที่เด็กเดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย
ฟาติมะฮฺ ผ่านการตรวจค้นร่างกายจาก TSA ซึ่งเป็นสำนักงานดูแลความปลอดภัยทางคมนาคมของสหรัฐฯ มาแล้ว แต่พอยืนรอคิวเพื่อจะขึ้นเครื่องบิน เจ้าหน้าที่สายการบินได้เดินเข้ามาหา แล้วบังคับให้เด็กถอดฮิญาบออก โดยอ้างว่าเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยทางการบิน
ทางเจ้าหน้าที่ยังเรียกตัวผู้จัดการสายการบินแอร์แคนาดามายืนยันว่า เด็กต้องถอดฮิญาบ
ออก เพราะรูปในพาสปอร์ตไม่ได้สวมฮิญาบ
ทางเด็กได้พยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลที่เธอสวมผ้าฮิญาบเพราะปฏิบัติตามความเชื่อทางศาสนาอิสลาม แต่ทางเจ้าหน้าที่สายการบินก็ยังยืนให้เด็กถอดฮิญาบออกในที่สาธารณะ เด็กพยายามร้องขอเจ้าหน้าที่ให้ถอดฮิญาบในห้อง ทางผู้จัดการยังยืนกรานให้เด็กถอดฮิญาบในที่สาธารณะ พร้อมยังข่มขู่ว่าถ้าไม่ถอดฮิญาบตรงนั้น ทางสายการบินก็จะไม่อนุญาตให้เด็กขึ้นเครื่องได้ ส่วนทางโค้ชและเพื่อนร่วมทีมได้เดินเข้าไปในเครื่องบินแล้ว
ด.ญ.ฟาติมะฮฺทั้งโมโหและปนกับความรู้สึกสับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจถอดผ้าฮิญาบ ขณะที่เดินผ่านพนักงาน เด็กสังเกตุเห็นว่าพนักงานไม่ได้แม้กระทั่งมองหน้าเด็กเพื่อเปรียบเทียบกับภาพในพาสปอร์ตด้วยซ้ำไป เด็กจึงรีบเดินก้มหน้าผ่านอุโมงค์ทางออกเพื่อรีบขึ้นเครื่องบิน
ตอนที่ทำพาสปอร์ตเด็กมีอายุเพียง 9 ขวบ และพอฟาติมะฮฺอายุได้ 11 ปี เด็กตัดสินใจสวมฮิญาบโดยไม่ได้ถอดออกต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากพี่สาวของด.ญ.ฟาติมะฮฺ โพสต์ข้อความส่วนตัวลงในทวิตเตอร์ มีใจความว่า “AirCanada ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าทำไมทางสายการบินถึงกักตัวน้องสาวของฉันวัย 12 ปีที่เดินทางเที่ยวบิน 758 และบังคับให้น้องถอดฮิญาบตรงจุดตรวจก่อนขึ้นเครื่อง หลังจากที่น้องสาวฉันผ่านการตรวจค้นจาก TSA มาแล้ว? "
จากนั้นทางแอร์แคนาดาได้ตอบทวิตเตอร์ของพี่สาวด.ญ.ฟาติมะฮฺว่า ให้ส่งข้อความถึงหมายเลขอ้างอิงของการจองที่นั่งมายังสายการบินผ่านทวิตเตอร์
ทางครอบครัวด.ญ.ฟาติมะฮฺ ได้ติดต่อกับองค์กรด้านสภาความสัมพันธ์อเมริกัน - อิสลาม (CAIR) และทางCAIR ได้ทำจดหมายต่อว่าไปยังทางสายการบิน แต่ยังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด “ตอนนี้ทาง CAIR ยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายกับทางสายการบินแอร์แคนาดา เพียงแต่ให้บริการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ฟาติมะฮฺและครอบครัว ทางเราจะให้เวลาสายการบินแอร์แคนาดา 2 อาทิตย์นับจากวันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป ถ้าทางสายการบินไม่มีการออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ ทางเราจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายอะฮฺหมัด ราฟิกีย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมายของ CAIRสาขาซานฟรานซิสโก กล่าว
ด.ญ.ฟาติมะฮฺกล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือ การปรับเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อผู้คน การสวมผ้าบนศีรษะของศาสนาใดๆ ศาสนาหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าหน้าที่ของสายการบินมองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย"
ที่มา –
วีดีโอ – สำนักข่าว TRT World
https://www.usatoday.com/…/air-canada-girl-remo…/2431548001/