Saturday, September 28, 2019

นักกีฬาเยาวชนหญิงมุสลิมทีมชาติอเมริกันวัย 12 ปีถูกเจ้าหน้าที่แอร์แคนาดาบังคับให้ถอดฮิญาบ ขณะกำลังขึ้นเครื่อง



ด.ญ.ฟาติมะฮฺ อับดุลเราะฮฺมาน เป็นนักกีฬาสควอช (Squash) ทีมชาติหญิง ที่ท็อป 5 นักกีฬาหญิงรุ่นเยาวชนของสหรัฐฯ และเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ถูกอนุญาตให้สวมฮิญาบลงแข่งขันได้



ด.ญ.ฟาติมะฮฺ เดินทางพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมออกจากท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก ในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2019 เพื่อไปแข่งสควอชที่โทรอนโต้ แคนาดา และเป็นครั้งแรกที่เด็กเดินทางโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย


ฟาติมะฮฺ ผ่านการตรวจค้นร่างกายจาก TSA ซึ่งเป็นสำนักงานดูแลความปลอดภัยทางคมนาคมของสหรัฐฯ มาแล้ว แต่พอยืนรอคิวเพื่อจะขึ้นเครื่องบิน เจ้าหน้าที่สายการบินได้เดินเข้ามาหา แล้วบังคับให้เด็กถอดฮิญาบออก โดยอ้างว่าเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัยทางการบิน


ทางเจ้าหน้าที่ยังเรียกตัวผู้จัดการสายการบินแอร์แคนาดามายืนยันว่า เด็กต้องถอดฮิญาบ
ออก เพราะรูปในพาสปอร์ตไม่ได้สวมฮิญาบ


ทางเด็กได้พยายามอธิบายกับเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลที่เธอสวมผ้าฮิญาบเพราะปฏิบัติตามความเชื่อทางศาสนาอิสลาม แต่ทางเจ้าหน้าที่สายการบินก็ยังยืนให้เด็กถอดฮิญาบออกในที่สาธารณะ เด็กพยายามร้องขอเจ้าหน้าที่ให้ถอดฮิญาบในห้อง ทางผู้จัดการยังยืนกรานให้เด็กถอดฮิญาบในที่สาธารณะ พร้อมยังข่มขู่ว่าถ้าไม่ถอดฮิญาบตรงนั้น ทางสายการบินก็จะไม่อนุญาตให้เด็กขึ้นเครื่องได้ ส่วนทางโค้ชและเพื่อนร่วมทีมได้เดินเข้าไปในเครื่องบินแล้ว


ด.ญ.ฟาติมะฮฺทั้งโมโหและปนกับความรู้สึกสับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจถอดผ้าฮิญาบ ขณะที่เดินผ่านพนักงาน เด็กสังเกตุเห็นว่าพนักงานไม่ได้แม้กระทั่งมองหน้าเด็กเพื่อเปรียบเทียบกับภาพในพาสปอร์ตด้วยซ้ำไป เด็กจึงรีบเดินก้มหน้าผ่านอุโมงค์ทางออกเพื่อรีบขึ้นเครื่องบิน


ตอนที่ทำพาสปอร์ตเด็กมีอายุเพียง 9 ขวบ และพอฟาติมะฮฺอายุได้ 11 ปี เด็กตัดสินใจสวมฮิญาบโดยไม่ได้ถอดออกต่อหน้าสาธารณชนอีกเลย


เรื่องนี้กลายเป็นข่าวที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากพี่สาวของด.ญ.ฟาติมะฮฺ โพสต์ข้อความส่วนตัวลงในทวิตเตอร์ มีใจความว่า “AirCanada ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าทำไมทางสายการบินถึงกักตัวน้องสาวของฉันวัย 12 ปีที่เดินทางเที่ยวบิน 758 และบังคับให้น้องถอดฮิญาบตรงจุดตรวจก่อนขึ้นเครื่อง หลังจากที่น้องสาวฉันผ่านการตรวจค้นจาก TSA มาแล้ว? "


จากนั้นทางแอร์แคนาดาได้ตอบทวิตเตอร์ของพี่สาวด.ญ.ฟาติมะฮฺว่า ให้ส่งข้อความถึงหมายเลขอ้างอิงของการจองที่นั่งมายังสายการบินผ่านทวิตเตอร์


ทางครอบครัวด.ญ.ฟาติมะฮฺ ได้ติดต่อกับองค์กรด้านสภาความสัมพันธ์อเมริกัน - อิสลาม (CAIR) และทางCAIR ได้ทำจดหมายต่อว่าไปยังทางสายการบิน แต่ยังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด “ตอนนี้ทาง CAIR ยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมายกับทางสายการบินแอร์แคนาดา เพียงแต่ให้บริการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายแก่ฟาติมะฮฺและครอบครัว ทางเราจะให้เวลาสายการบินแอร์แคนาดา 2 อาทิตย์นับจากวันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป ถ้าทางสายการบินไม่มีการออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ ทางเราจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายอะฮฺหมัด ราฟิกีย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมายของ CAIRสาขาซานฟรานซิสโก กล่าว


ด.ญ.ฟาติมะฮฺกล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือ การปรับเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อผู้คน การสวมผ้าบนศีรษะของศาสนาใดๆ ศาสนาหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าหน้าที่ของสายการบินมองว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย"



ที่มา –
วีดีโอ – สำนักข่าว TRT World
https://www.usatoday.com/…/air-canada-girl-remo…/2431548001/

Friday, September 13, 2019

หญิงมุสลิมถูกชายชาวฝรั่งเศสกระหน่ำจ้วงแทงกลางถนน ต่อหน้าลูกน้อย 2 คนและสามี






13/09/2019


เหตุการณ์อันเลวร้ายนี้เกิดขื้นเมื่อวานนี้ (12/09) ตอน 18.30 น. ที่หมู่บ้านเล็กๆ ของเมืองซูรี่ เลอ คอมทอล Sury-le-Comtal (Loire) ในฝรั่งเศส เมื่อชายชาวฝรั่งเศสที่อายุประมาณ 60 ปีเดินเข้ามาหาหญิงมุสลิมที่สวมฮิญาบ โดยทำเป็นแกล้งถามข้อมูล และพอหญิงมุสลิมผู้นี้พยายามตอบคำถาม คนร้ายก็ควักมีดกระหน่ำจ้วงแทงหญิงมุสลิมไปหลายครั้ง ต่อหน้าต่อตาลูกเล็กๆ ของนางที่อายุ 2 ขวบและ 4 ขวบ และสามีของนางที่ยืนอยู่ตรงนั้น ส่งผลให้นางบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณลำคอ หน้าอก และหลัง


ทหาร 2 นายจากหน่วยทหาร Andrézieux-Bouthéon Brigade มาถึงที่เกิดเหตุ และสามารถควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้


จากการสอบสวนเบื้องต้นเผยว่า คนร้ายอยู่ในสภาพที่เมาหนักมาก และทหารส่งตัวให้ตำรวจส่ไปกักขังไว้ที่คุก Montbrison gendarmerie ส่วนทางด้านผู้ติดตามต่างอ้างว่าคนร้ายนั้นเป็นโรคซึมเศร้า และเขาก็ไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน


ทางสำนักงานอัยการประจำ Saint-Etienne ได้มีการเริ่มต้นการสอบสวนด้วยการส่งตัวคนร้ายไปตรวจสอบประเมินสุขภาพจิต



ที่มา –



Wednesday, September 4, 2019

💔 มุสลิมแม่ลูกโดนสาวฝรั่งทำร้ายบาดเจ็บสาหัสที่สถานีรถไฟใต้ดิน North Ealing ในกรุงลอนดอน





เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. 2019 ตำรวจขนส่งอังกฤษได้ปล่อยภาพสาวฝรั่งที่อ้างว่าเป็นผู้ทำร้ายมุสลิม 2 แม่ลูกในกรุงลอนดอนตะวันตก พร้อมประกาศขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยตำรวจในการแจ้งเบาะแสคนร้าย

ฝ่ายโฆษกประจำตำรวจขนส่งอังกฤษกล่าวว่าเหตุทำร้ายร่างกายมุสลิมแม่ลูกเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ส.ค. เวลา 17.30 น. ที่สถานีรถไฟ North Ealing”

โดยเหยื่อผู้เสียหายที่เป็นแม่ที่มีอายุ 60 ปี และลูกสาวอายุ 30 ปี และเด็กอีก 2 คน ซึ่งคนหนึ่งอายุเพียง 3 ขวบและเด็กอีกคนอายุ 5 ขวบ เดินออกมาจากสถานีรถไฟ North Ealing ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งลอนตะวันตกของกรุงลอนดอน

สาวฝรั่ง (คนในภาพ) ได้เริ่มด่าทอสองแม่ลูกว่า ทุเรศมากที่ใส่ฮิญาบ จากนั้นได้ลากผู้เป็นลูกไปทุบตีในห้องน้ำ แม่จึงตามเข้าไปเพื่อต้องการยุติการทำร้าย แต่กลับถูกผลักล้มและถูกทุบตีอย่างหนัก ทำให้กระดูกซี่โครงหักและบาดเจ็บสาหัส ส่วนลูกสาวโดนต่อยจนตาเขียวช้ำ มีรอยฟกช้ำตามตัว และเลือดออกในช่องท้อง

ช่วงเวลาที่สองแม่ลูกถูกทำร้ายเป็นช่วงที่มีคนเดินทางเป็นจำนวนมากในสถานีรถไฟ แต่กลับไม่ได้รับการช่วยเหลือจากใครเลยสักคนเดียว

ส่วนตำรวจก็ใช้เวลาถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งๆ ที่เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง

สถิติของอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยมีรายงานการถูกทำร้ายร่างกายจากความเกลียดชังอิสลามถึง 1,323 ครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2018 -2019 ซึ่งเปรียบเทียบกับปี 2010 ที่มีจำนวน 350 ครั้ง


.
ที่มา -






กองทัพอิสราเอลสังหารเด็กกาซ่า 50 คน ภายใน 2 วัน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรยูนิเซฟ UNICEF ออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีที่นองเลือดในฉนวนกาซาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย...