เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 มี.ค. ประชาชนจำนวน 12,000 คนได้อพยพออกจากเมืองฆูเฏาะฮฺตะวันออกภายในวันเดียว วันต่อมากองกำลังรัสเซียยังคงใช้เครื่องบินรบโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดนาปาล์มถล่มตลาดในเขตคัฟรฺ บัดนะ (Kafr Batna) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน และในจำนวนนี้มีเด็กเสียชีวิต 13 คน และมีผู้บาดเจ็บ 200 คน โดยทางกลุ่มเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนในซีเรียและแพทย์ต่างให้ความเห็นว่า เป็นไปได้ที่จำนวนผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้ เพราะยังมีอีกหลายศพที่ยังคงติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
“ผมไม่ต้องการที่จะบอกว่าโปรดช่วยเหลือฆูเฏาะฮฺ ผมต้องการบอกว่าโปรดช่วยเหลือประชาคมนานาชาติ ช่วยเหลือมนุษยชาติด้วย สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติเอกฉันท์ให้มีการหยุดยิงในซีเรียเป็นเวลา 30 วัน เมื่อ 20 วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เพราะประชาสังคมนานาชาติได้ล่มสลายลงแล้ว มวลมนุษยชาติทั้งหมด ประชาสังคม และประเทศต่างๆ ที่พูดถึงสิทธิมนุษยชน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น” หนึ่งในแพทย์ที่ยังคงอยู่ในฆูเฏาะฮฺตะวันออกกล่าว
****กลับกลายเป็นเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดาไปแล้วที่รัฐบาลซีเรียที่นำโดยประธานาธิบดีบัชชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธสงครามสังหารประชาชนของเขาเองอย่างต่อเนื่อง มีเพียงแค่คำประณามของผู้นำโลกและยูเอ็น แต่ขาดการกดดันอย่างจริงจังต่อรัฐบาลซีเรีย**** (ความคิดเห็นของผู้แปล)
ที่มาของข้อมูล –
https://www.theguardian.com/…/airstrikes-kill-dozens-in-eas…